ปกติเป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติต้องกินยาฮอร์โมนของคุณหมอทุกเดือน มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายแบบไม่ป้องกันและหลั่งในวันที่ 18 สิงหา ต่อมาเดือนกันยา,ตุลา,พฤศจิกา ประจำเดือนมาตามยาฮอร์โมนที่กิน คือกิน 7 วัน ถัดจากนั้น 3 วันประจำเดือนก็จะมา ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่ 27 พฤ เลยคิดว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่ๆ ต่อมาเดือนธันวารู้สึกมีอาการท้องป่อง (ตามรูป) และมีสิวขึ้น เหมือนสิวเกี่ยวกับฮอร์โมน ซึ่งปกติเป็นคนไม่มีสิว เลยมีความกังวลว่าจะตั้งครรภ์ มีการซื้อที่ตรวจและไปตรวจที่คลินิคโดยใช้ปัจสาวะ ผลบอกว่า ไม่ตั้งครรภ์ค่ะ และได้ไปพบคุณหมอที่ รพ แห่งหนึ่ง เล่าเคสให้คุณหมอฟัง คุณหมอแจ้งว่าไม่น่าจะตั้งครรภ์ได้ แต่ได้พาไปอัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดเพื่อดูเนื้องอก ก็ปรากฏว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ และคุณหมอไม่ได้พูดถึงเรื่องตั้งครรภ์อีก เลยยังมีความกังวลเรื่องตั้งครรภ์อยู่ค่ะ รบกวนคุณหมอช่วยดูผลอัลตร้าซาวด์ให้หน่อยค่ะ จากรูปสามารถดูการตั้งครรภ์ได้หรือไม่คะ และผลเป็นอย่างไรคะ

ปกติรอบเดือนแต่ละรอบ (วันที่ประจำเดือนมาวันแรกรอบนี้ กับ วันที่ประจำเดือนมาวันแรกรอบถัดไป) จะประมาณ 28 - 30 วันค่ะ โดยไข่จะตกกลางรอบ คือประมาณวันที่ 14 ของรอบเดือน (นับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน) ถ้าไข่ตกแล้ว ไม่ได้รับการผสม อีก 2 สัปดาห์ถัดมา เยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะหลุดมา เป็นเลือดประจำเดือนค่ะ

ในทางตรงกันข้าม ถ้าไข่ที่ตก ได้รับการผสมกับ อสุจิ เป็นตัวอ่อน มาฝังตัวในโพรงมดลูก เกิดการตั้งครรภ์ขึ้น เยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะทำหน้าที่หล่อเลี้ยงตัวอ่อนต่อไป ไม่หลุดออกมาเป็นประจำเดือน เดือนนั้น ก็จะไม่มีประจำเดือนทันทีค่ะ

แม้จะรับประทานปรับฮอร์โมน เพื่อให้เมันส์มา ถ้าตั้งครรภ์อยู่ ประจำเดือนก็จะไม่มา หลังยาหมดค่ะ

จากรูป อัลตราซาวด์ที่แนบมา เป็นรูปรังไข่ 2 ข้าง ค่ะ จากรูป ไม่สามารถบอกได้ ว่าตั้งครรภ์หรือไม่??

ประจำเดือนไม่มา เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
ก่อนอื่นต้องเช็คเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนค่ะ

ถ้าไม่ตั้งครรภ์
โดยทั่วไป จะถือว่าเป็น ภาวะไม่มีประจำเดือน (Amenorrhea) เมื่อประจำเดือนขาดหายไป ต่อเนื่องกัน 3 เดือนค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้จำเป็นต้องไปพบแพทย์ เพื่อซักประวัติอย่างละเอียด ตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน เพื่อหาสาเหตุต่อไปค่ะ
ถ้าประจำเดือนขาดไปเพียงเดือนเดียว อาจเกิดจาก ความแปรปรวนของฮอร์โมน ไข่ไม่ตกในเดือนนั้น อาจสังเกตต่อไปก่อนได้ค่ะ แต่ถ้าเดือนถัดๆไป ประจำเดือนยังไม่มาอีก ควรไปพบแพทย์
ถ้าสาเหตุของการไม่มีประจำเดือน เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
1. มดลูก ปากมดลูก ผิดปกติ
2. รังไข่ผิดปกติ หรือ ไข่ไม่ตก
3. สาเหตุทางสมอง ทำให้ฮอร์โมนที่หลั่งจากสมอง มาควบคุมรังไข่ ผิดปกติไป เช่น การที่น้ำหนักลดลงมาก ออกกำลัยการหนักๆ หรือมีความเครียด ก็ทำให้ฮอร์โมนที่หลั่งจากสมองมาควบคุมรังไข่ผิดปกติได้ค่ะ ทำให้เมนส์ไม่มา
อย่างไรก็ตาม การจะทราบแน่ชัด ว่าเมนส์ไม่มาจากสาเหตุใดนั้น ต้องหาสาเหตุโดยแพทย์ เพราะต้องตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และ อาจต้องเจาะเลือดเพื่อดูฮอร์โมนเพิ่มเติมค่ะ

กรณีของคุณ อาจเกิดจากไข่ไม่ตกค่ะ
เมื่อไข่ไม่ตก เมนส์ก็ไม่มา บางครั้งมีเศษของเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกมา (แต่ไม่ใช่ประจำเดือน) ก็จะมีลักษณะเป็นเลือดออกกระปริยกระปรอย หรือเป็นเลือดสีดำๆได้ค่ะ
อาการของไข่ไม่ตกเรื้อรัง (PCOS) จะประกอบด้วย 1. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ 2. มีสิว หน้ามัน ขนดก 3. อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด พบถุงน้ำ ขนาดเล็กๆ ปริมาณมากที่รังไข่ อย่างในรูปของคุณ ก็เป็นไปได้ค่ะ จะวินิจฉัยภาวะนี้ เมื่อมีอาการ 2 ใน 3 ข้อนี้

ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ใช้การรักษาด้วยยาปรับฮอร์โมนได้ค่ะ แต่ถ้าหยุดยา ก็มักจะกลับมามีอาการเหมือนเดิม

การปฏิบัติตัว เพื่อให้กลับมาไข่ตกได้ ก็ประกอบด้วย การลดน้ำหนัก ในคนที่มีน้ำหนักเกิน ออกกำลังกาย บางคนพอ น้ำหนักลด ก็สามารถกลับมาไข่ตกปกติ ประจำเดือนสม่ำเสมอ สามารถหยุดยาได้ค่ะ

เพราะฉะนั้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ

รูปที่แนบมา รูปที่ 2 กับ 3 เป็นรูปเดียวกันนะคะ รูปรังไข่ทั้งคู่ค่ะ จากที่เห็น ยังไม่เห็นรูปมดลูกเลยค่ะ

ปกติ ถ้าอายุครรภ์เกิน 5- 6 สัปดาห์แล้ว อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด น่าจะเห็นถุงการตั้งครรภ์แล้วค่ะ

ลองเช็ครูปที่แนบดูอีกทีนะคะ

ถ้ายังไม่มั่นใจ อีกวิธีคือการเช็คค่าฮอร์โมนการตั้งครรภ์ในเลือดค่ะ ดูเลยว่า ค่าขึ้นหรือไม่

รูปที่ 4 ยังเป็นรูปเดียวกับรูปที่ 2 และ 3 นะคะ
เป็นรูปรังไข่ 2 ข้างค่ะ

รูปมดลูก ไม่เห็นถุงการตั้งครรภ์ค่ะ เยื่อบุเรียบ เป็นลักษณะของเยื่อบุก่อนไข่ตกค่ะ