April 26, 2019 11:00
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินอาการที่น่าจะเป็นไปได้ สองอาการที่สำคัญนะครับ
1.อาการเจ็บหน้าอก เรอบ่อย
อาการปวดจุกแน่นใต้ลิ้นปี่เป็นได้จากหลายสาเหตุครับ แต่ในคนอายุน้อยสาเหตุหลักๆคือ
1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบแผลในกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน **พบบ่อยที่สุดครับ
2.นิ่วในถุงน้ำดี
3.ตับอ่อนอักเสบ
ส่วนในผู้สูงอายุต้องระวังโรคหัวใจขาดเลือดด้วยครับ
ซึ่งปัจจัยในการเกิดโรคกระเพาะอาหาร เช่น
1.ภาวะเครียด
2.กินข้าวไม่ตรงเวลา
3.ชอบกินของเผ็ดของเปรี้ยว
4.ชากาแฟน้ำอัดลม และแอลกอฮอล์
5.ยาแก้ปวด ยาสมุนไพร
ดังนั้น เนื่องจาก กรดไหลย้อน และแผลในกระเพาะอาหาร เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุด หมอแนะนำให้ลองปฎิบัติการรักษาโรคนี้ก่อนได้ครับ
>>>การรักษาโรคกระเพาะและกรดไหลย้อน ประกอบไปด้วยสองอย่างคือ
1.การปรับการใช้ชัวิตประจำวัน
2.การใช้ยา
******************************************
1. การปรับชีวิตประจำวัน ควรปรับเรื่อง อาหาร และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการกินครับ
-อาหาร ควรเป็นอาหารที่ไม่รสจัด ไม่มัน ไม่หวานจัดเผ็ดจัดเค็มจัด
-ลดของหวานของมัน เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์และ คาเฟอีน
-รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
-หลังกินควรยกหัวสูง อย่างน้อย 1-3 ชม คือไม่นอนทันทีครับ
-หากมียาที่มีผลข้างเคียงที่รับประทานเป็นประจำ ทำให้ปวดท้อง เช่น ยาแก้ปวดแอสไพริน ควรปรึกษาแพทย์
>>ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุ อาจจะเป็นโรคกระเพาะไม่มีสาเหตุ การติดเชื้อเรื้อรังในกระเพาะอาหาร ก้อน นิ่ว เป็นต้น หลังจากตรวจ อาจจะได้นามารับประทาน ให้รับประทานต่อเนื่อง ร่วมกับการปรับชีวิตประจำวันครับและไปตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอครับ
2. การใช้ยา โดยทั่วไป ยาสามัญประจำบ้านที่คนไข้สามารถซื้อเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยา alum milk , ยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียน , simeticone เป็นต้นค่ะ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ครับ
**สำหรับอาการดังกล่าว เป็นการวินิจฉัยอย่างพอสังเขป การให้การรักษาต้องได้รับการตรวจร่างกายเพิ่มเติมโดยแพทย์ ดังนั้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่ รพ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องหากอาการไม่ดีขึ้นครับ**
2.อาการใจสั่น หัวใจเค้นผิดจังหวะ
สำหรับอาการหัวใจเต้นเร็ว/ใจสั่นอาจเป็นผลมาจากหลายอย่าง เช่น
1.สาเหตุจากหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
2.การขาดน้ำหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ เช่น มีการอาเจียน ถ่ายเหลว
3.การใช้ยาหรืออาหารบางอย่าง เช่น ชา กาแฟ ยาลดน้ำมูกบางชนิด
4.ฮอร์โมนผิดปกติ เช่น thyroid สูง อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กินจุ น้ำหนักลด
5.ภาวะทางจิตใจ เช่น ตื่นเต้น วิตกกังวล เป็นต้น
ดังนั้น หากยังคงมีอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น นอนไม่หลับ แนะนำให้ไปตรวจเพิ่มเติมที่ รพ นะคะ อาจต้องมีการทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเลือด เพื่อยืนยันการวินิจฉัยด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ หนูอายุ 15 ปี เพศหญิงค่ะ เริ่มมีอาการเมื่อปีที่แล้ว ดังนี้ค่ะ 1.ปวดหัวบ่อยค่ะ : ถ้าช่วงเปิดเรียนแล้วมีการบ้าน ชิ้นงาน สอบเยอะ ช่วงนั้นจะปวดทุกวันเลยค่ะ บางทีก็อาเจียน บางทีสมอง(ช่วงสมองส่วนหลัง)ก็เต้นตุบๆค่ะ แล้วก็จะปวดบ้างตอนคิดเยอะๆค่ะ ถ้าปวดถี่ๆ(ทั้งอาทิตย์)พยายามไม่กินยาพาราค่ะ แต่ถ้าวันไหนที่ทนไม่ได้ก็กินค่ะ 2.ปวดหน้าอกค่ะ : ส่วนมากจะปวดช่วงกลางค่อนไปด้านซ้ายค่ะ บางครั้งก็ปวดด้านขวาค่ะ แต่เคยไปตรวจแล้ว หมอบอกน่าจะเป็นอะไรสักอย่างเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ หนูก็จำไม่ได้ค่ะ ไปมาเมื่อปีที่แล้วค่ะ เขาเลยให้ยามา เขาบอกให้ทานติดต่อกันให้หมด ถ้ายังปวดอีก ก็ให้ไปหาอีก แต่ผิดที่หนูเองค่ะ หนูกินยาไม่หมดค่ะ เลยเลิกกินไปเลย 3.เคยหัวใจหยุดเต้นประมาณเสี้ยววิค่ะ : เคยมีอาการนี้ 2 รอบค่ะ คือเดินอยู่ดีๆแล้วเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะค่ะ แต่แค่เสี้ยววิหัวใจก็กลับมาเต้นเป็นปกติค่ะ 4.เคยมีอาการตัวชาค่ะ : เคยลุกนั่ง 50 ครั้ง เมื่อลุกนั่งเสร็จ มีอาการขาอ่อนแรง ลุกไม่ขึ้น ตามองไม่เห็น ภาพเป็นสีดำ ชาไปทั้งตัว หน้าซีด ปากม่วง เลยให้คนประคองพาไปพัก ระหว่างเดินก็เริ่มกลับมามองเห็น อาการชาค่อยๆหายไป หลังจากวันนั้นแขนขาก็ชาง่ายกว่าปกติค่ะ 5.เหนื่อยง่าย หายใจไม่ค่อยอิ่ม : เมื่อก่อนสามารถทำงานได้เหมือนคนทั่วไปค่ะ แต่ตอนนี้ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย เดินขึ้นบันได 20 ขั้นก็เหนื่อยแล้วค่ะ ตอนเหนื่อย ตอนได้กลิ่นควัน กลิ่นฝุ่นจะหายใจไม่ค่อยทัน หายใจไม่ค่อยได้ หายใจไม่เต็มปอดค่ะ 6.อาการเรอ : ถ้ามีอาการเรอ ส่วนมากจะเรอสั้นๆ แต่เรอติดๆกันค่ะ แล้วก็เคยทานข้าวเสร็จแล้วท้องร้องด้วยค่ะ จะเป็นช่วงตอนเย็นๆค่ะ 7.ตอนเป็นประจำเดือน : เมื่อก่อนปวดท้องค่ะ เคยกินยาแก้ปวดไปครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กินอีกเลยค่ะ ใช้ถุงร้อนประคบเอาค่ะ แต่ประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมาไม่ปวดท้องแล้วค่ะ แต่ปวดขาแทน แบบไม่อยากเดินเลยค่ะ ปวดขามาก 8.ผมร่วง : ตอนสางผมออกมา ผมร่วงติดมือทุกครั้งค่ะ อาทิตย์ที่แล้ว กินข้าวค่ะ ประมาณห้าโมงเย็น ผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงอาเจียนค่ะ ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนค่ะ แต่พอทุ่มกว่า ไปกินข้าวอีกรอบ เพราะหิวค่ะ แต่ก็ไม่เป็นอะไรค่ะ เมื่อ 2 วันที่แล้วมีอาการปวดหัวตั้งแต่ตอนบ่าย กินยาไม่หายค่ะ เลยต้องนอน แล้วก็ปวดหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งรอบนี้ปวดนานกว่าปกติค่ะ วันนี้ก็ปวดหน้าอกด้านซ้ายค่ะ แต่ไม่ปวดมากค่ะ ช่วงนี้ปวดหน้าอกทุกวันค่ะ ปวดหัวบ้างบางวัน อยากทราบว่ามีโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคอะไรรึเปล่าคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)