สวัสดีค่ะ กินยาลดความอ้วนของลิโซค่ะ แต่อยากบริจาคเลือดต้องหยุดทานยากี่วันค่ะ จึงสามารถบริจาคได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ เบื้องต้นแนะนำให้หยุดยาลดความอ้วนไปเลยนะคะ เนื่องจากการทานยาลดความอ้วน อาจเป็นอันตรายต่อชัวิตได้ค่ะ

ก่อนอื่นเลยนะคะ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า การลดน้ำหนักที่ปลอดภัย มักไม่มีทางลัดค่ะ ผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนัก จะต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายทุกคน แค่อาจจะมีตัวช่วยได้บ้างในกรณีที่อ้วนมาก จนมีผลแทรกซ้อน ได้แก่ การหยุดหายใจขณะหลับ การเคลื่อนไหวร่างกาย โรคหัวใจ โรคสมอง คุณหมอจะพิจารณา ให้ผ่าตัด หรือให้ยาบางชนิด (ยาที่ได้รับการยอมรับว่าปลอดภัยสำหรับการลดน้ำหนักในปัจจุบันมีชนิดเดียว ซึ่งต้องรับประทานภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น) ร่วมกับการคุมอาหารและออกกำบังกายเช่นกัน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักหลายชนิด ไม่ได้มีการทำวิจัยหรือมีผลการวิจัยยืนยันแน่นอนว่าปลอดภัย รวมถึงยาที่รับประทานต่างๆ อาจผสมสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยหวังเอาผลข้างเคียงของยานั้นมาใช้ในการลดน้ำหนัก ตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาถ่าย ยาติตเวชต่างๆ รวมไปถึงยาแอมเฟตามีน ซึ่งยาเหล่านี้ สามารถลดน้ำหนักได้จริง แต่จะมาพร้อมผลข้างเคียงอื่นๆอีกมากมาย บางทีร้ายแรงถึงชีวิต เช่น ใจสั่น เกลือแร่ผิดปกติอย่างมาก กระดูกพรุน หัวใจวาย ติดยา อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ มีความผิดปกติของสารสื่อประสาท สุญเสียการทำงานของสมดุลร่างกายอย่างมากคะ ดังนั้น ไม่แนะนำให้ซื้อยายาลดน้ำหนักกินเองทุกชนิดค่ะ ต่อไปนี้ หากไม่ได้ศึกษาส่วนประกอบของยาที่ชัดเจน อย่าหลงเชื่อคำโฆษณานะคะ แม้เป็นสมุนไพร ก็อาจทำร้ายร่างกายได้ เช่น ผลกระทบต่อฮอร์โมนต่างๆ ค่อมหมวกไต สารสื่อประสาทได้ค่ะ หันมาลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยกันดีกว่าค่ะ

**ไม่แนะนำให้บริจาคเลือด หากกำลังทานยาอยู่ ควรไปตรวจร่่งกายแบะตรวจเลือดให้แน่ใจว่าไม่มีอันตรายร้ายแรงอะไรกับคนไข้จากการทานยาค่ะ

ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมนะคะ

จากการค้นหาข้อมูล ไม่พบการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อดังกล่าวค่ะ
จึงไม่แน่ใจว่าให้ชื่อมาผิด หรือว่าผู้ถามกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนหรือเปล่า

ถ้าอย่างไรแนะนำให้ผู้ถามลองค้นข้อมูลการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ได้ที่ http://porta.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_ALL/MAIN/SEARCH_CENTER_MAIN.aspx

และหากไม่พบการขึ้นทะเบียน ไม่ควรใช้เด็ดขาดนะคะ เพราะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ซึ่งนอกจากจะหยุดใช้ตามคำแนะนำของคุณหมอแล้ว ควรแจ้งสายด่วน อย. 1556 เพื่อดำเนินการต่อไปด้วยค่ะ