July 20, 2019 11:57
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
คนไข้ควรไปตรวจภายใน ตรวจหาเชื้อที่อาจทำให้ก่อโรค เช่น เชื้อราแคนดิดา เชื้อโปรโตซัวทริโคโมแนส เชื้อแบคทีเรียBV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หากมีความเสี่ยง เช่นหนองในแท้และเทียม ครับ
โดยเฉพาะหากมีการสวนช่องคลอดเป็นประจำ หรือทำความสะอาดช่องคลอดด้วยน้ำยาล้างช่องคลอดบ่อยไปอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียประจำถิ่นลดลงจนอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆที่ก่อโรคในช่องคลอดได้ เรียกว่าการติดเชื้อ Bacterial vaginosis ซึ่งอาจมีตกขาวกลิ่นน้ำคาวปลา แสบคันช่องคลอดได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับอาการคันช่องคลอดมีได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-ผื่นคันจากการแพ้สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เช่นแพ้สบู่ที่ใช้ล้างซึ่งอาจมีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง สังเกตว่าช่วงนี้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆหรือเปล่า จากการระคายเคืองของกางเกงในหรือกางเกงที่สวมใส่ อาจเกิดจากการใส่กางเกงเก่าหรืออับชื้น
-จากการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือจากเชื้อรา สำหรับเชื้อราในช่องคลอดจะมีตกขาวสีขาวข้นคล้ายนมบูด มีอาการคันมาก มีกลิ่น ช่องคลอดอาจมีปื้นแดงหรือผื่นแดง เป็นขุย หรือฝ้าขาว มักพบในคนที่มีโรคประจำตัวที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ มีประวัติสวนล้างช่องคลอดบ่อยๆ มีประวัติทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน
-อาการคันจากหูดซึ่งจะพบรอยโรคเป็นติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำ มีประวัติมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันมาก่อน
-สาเหตุจากอื่นๆ เช่น จากเหาหรือโลน จากความเครียด จากโรคมะเร็ง เป็นต้นค่ะ
ยังไงแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและจะได้ทำการรักษานะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
คันในช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
* การติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อปรสิต
* ช่องคลอดอักเสบ
* การแพ้ต่างๆ เช่น แป้ง, สบู่, น้ำยาสวนล้างช่องคลอด เป็นต้น
เบื้องต้นแนะนำ งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น และลองเปลี่ยนสบู่ หรือแป้งที่ใช้ ดูครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูติแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน เพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
มีอาการคันในช่องคลอด พอซื้อยาสอดมาใช้ ก็เบาแต่ไม่หายแล้วกลับมาคันเหมือนเดิม และจะเบาคันเมื่อมีประจำเดือนมา พอประจำเดือนหายก็คันอีก โดยปกติก็ใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นเป็นประจำ เวลาเข้าห้องน้ำก็เช็ดให้แห้งทุกครั้ง อาการแบบนี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรไหมค่ะ ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แล้วควรต้องไปตรวจภายในหรือไม่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)