สวัสดีค่ะคุณหมอ คือหนูเจ็บหัวนมรวมกับปวดท้องหน่วงๆค่ะก่อนหน้านี้มีอะไรกับแฟนแต่ไม่ได้ป้องกันค่ะแฟนไม่เสร้จน่ะค่ะทำแค่15-20นาทีเองแล้วก็ซื้อยาคุมมากินค่ะแบบ28เม็ดหนูมีอาการท้องอืดจึงกินยาสตรีเพ็ญภาคในวันที่1-2เมษายนพอวันที่3-6และมาอีกวันที่9 ปล.ไม่ทราบว่าประจำเดือนที่มีคือที่กินยารึป่าวค่ะ

1. ใช้ยาคุมยี่ห้ออะไรคะ และวันนี้ต้องใช้เม็ดที่เท่าไหร่ของแผง
2. เลือดที่ออกมาวันที่ 3 - 6 เมษายน มีปริมาณมากหรือเป็นเพียงเลือดกะปริบกะปรอย
3. เลือดที่ออกมาวันที่ 9 มาวันเดียวหรือเปล่าคะ ออกมามากหรือเป็นเพียงเลือดกะปริบกะปรอย
4. มีปัญหาลืมรับประทานยา / อาเจียน / ถ่ายเหลว บ้างหรือไม่
5. มีการใช้ยากันชัก / ยาต้านไวรัสเอดส์ / ยารักษาวัณโรค / สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต บ้างหรือเปล่า

1. หยุดรับประทานยาคุมวันที่ 3 เมษายนใช่มั้ยคะ แล้วเริ่มรับประทานยาคุมวันที่เท่าไหร่
2. รับประทานยาคุมถูกต้องตามลำดับจากเลข 1 ไปหาเลขที่ 28 ใช่มั้ยคะ
3. รับประทานยาสตรีวันที่เท่าไหร่คะ
4. ประจำเดือนที่มาครั้งล่าสุด (ก่อน 3 เมษายน) มาวันที่เท่าไหร่คะ และปกติจะมีประจำเดือนมาทุก ๆ กี่วัน

1. ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ยาคุมรายเดือนไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินนะคะ หากใช้หลังจากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันไปแล้ว ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ และหากไม่ได้เริ่มใช้แผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หากใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม จะต้องรับประทานติดต่อกันจนครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ และสมมติว่าเกิดการตั้งครรภ์ไปแล้วก่อนที่ยาคุมจะมีผลคุมกำเนิดได้ การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่ เพราะยาคุมไม่มีผลทำให้แท้งได้ค่ะ

ดังนั้น ถือว่าโชคดีที่ครั้งนี้ไม่ได้เกิดการตั้งครรภ์นะคะ แต่ครั้งต่อไปที่จะใช้ยาคุมกำเนิด ควรใช้ให้ถูกต้องค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม

2. ยาคุมชนิด 28 เม็ดที่ใช้ คาดว่าจะเป็นชนิดที่มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด + เม็ดแป้ง 7 เม็ดค่ะ ซึ่งประจำเดือนจะมาหลังจากใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดแล้ว 2 - 3 วัน ดังนั้น การที่มีประจำเดือนมาในวันที่ 3 เมษายน ถือว่าปกติดีค่ะ

3. เลือดที่ออกในวันที่ 9 ไม่ทราบสาเหตุค่ะ แต่หากไม่มีอาการผิดปกติอื่นก็ไม่เป็นไรนะคะ

4. หากตั้งแต่วันที่มีประจำเดือนมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์นะคะ อาการเจ็บคัดตึงเต้านมและปวดหน่วงท้อง อาจเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนก็ได้ค่ะ

5. แต่ถ้าอาการที่เป็นอยู่รุนแรงมาก ๆ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวสีผิดปกติ, มีกลิ่นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, มีอาการคันหรือแสบช่องคลอด แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ