วิธีเลิกบุหรี่

วิธีที่จะสามารถเลิกบุหรี่ได้คือให้หาแรงจูงใจค่ะ เช่น เลิกเพื่อตัวเอง เพื่อคนในครอบครัว ให้นึกถึงข้อเสียของบุหรี่และโทษที่ตามมาต่อเราเองและคนอื่น เมื่อมีเป้าหมายที่แน่วแน่ก็ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมค่ะ ได้แก่ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ทำให้นึกถึงหรือเคยสูบบุหรี่ ให้หาสิ่งที่แทนบุหรี่ เช่นหมากฝรั่ง สุดท้ายก็ย้ำตัวเองบ่อยๆ พยายามหากลุ่มเพื่อนหรือชมรมที่ต้องการเลิกบุหรี่เหมือนกันเพื่อจะได้มีกำลังใจในการเลิกค่ะ แต่ถ้าไม่สามารถเลิกแบบหักดิบได้เลยแนะนำให้ค่อยๆลดจำนวนการสูบลงทีละน้อย จนเลิกสูบไปในที่สุดค่ะ แต่ถ้ายังไม่สามารถทำได้จริงๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการบำบัดในกรณีที่ติดบุหรี่ขั้นรุนแรงหรือสูบมานานค่ะ

วิธีเลิกบุหรี่สามรถขอคำปรึกษาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นจากแพทย์โดยตรง โทร Quit Line 1600 สถาบันธัญญารักษ์ หรือคลิกนิกเลิกบุหรี่ตามโรงพยาบาลทั่วไป

กำหนดเวลาในการเลิกบุหรี่ที่แน่นอน กางปฏิทินขึ้นมา เอาปากกาวงไว้เลย วันนี้จะต้องเป็นวันเลิกบุหรี่วันแรก นับไป 3 เดือน ต้องไม่หยิบบุหรี่ขึ้นมาอีกเด็ดขาด เป็นต้น

ขนอุปกรณ์ในการสูบบุหรี่เอามาทิ้งให้หมด อย่าให้เหลือ และนำขนมคบเคี้ยวที่แก้อยากบุหรี่เอาไว้ใกล้ๆ ตัว เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม ผลไม้ เป็นต้น

ไม่อยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ อันนี้สำคัญ หากเพื่อนๆ รอบตัวเรายังสูบบุหรี่ แล้วเราไปยืนข้างๆ มีโอกาสสูงที่เราจะเอาชนะความอยากไม่ได้ เหมือนลดน้ำหนักและเพื่อนลากไปกินบุฟเฟ่ต์นั่นแหละ

ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป ทราบดีว่าของแบบนี้ต้องมีวินัย แต่อย่าหมกมุ่นเคร่งเครียดจนเกินไป แทนที่สมองจะคิดแต่เรื่องเลิกบุหรี่ ห้ามใจตัวเองไม่ให้อยากบุหรี่ เราเอาสมองไปคิดเรื่องอื่นดีกว่า ให้ลืมๆ เรื่องบุหรี่ไปเลยจะดีกว่าครับ

การเลิกบุหรี่วิธีที่แนะนำและผู้รับบริการสามารถเลิกได้สำเร็จ คือ
1.การหักดิบ เริ่มจากการพูดคุย ทำความเข้าใจกับคนในครอบครัว ตั้งเป้าหมายการเลิกให้ชัดเจน กำจัดอุปกรณ์ในการสูบออกไป และต้องเรียนรู้อาการผิดปกติบางอย่างที่อาจเกิดจากการเลิกบุหรี่ เช่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย เปรี้ยวปาก หงุดหงิด เบื่อๆ อาการเหล่านี้เป็นอาการที่เกิดจากภาวะขาดนิโคติน วิธีจัดการสามารถทำได้โดยการจิบน้ำบ่อยๆ ออกกำลังกายทุกวัน หามะขาม มะนาวหั่นแว่น กานพลูไว้อมแทนเพื่อลดความอยากบุหรี่ หากมีอาการหงุดหงิดอย่างมาก นอนไม่หลับ ใจสั่น ก็ต้องไปพบแพทย์
โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะหายไปได้เองภายใน 2 สัปดาห์-1เดือน
เมื่อเลิกได้แล้ว ก็ต้องหาวิธีป้องกัน หรือกำจัดตัวกระตุ้นที่อาจทำให้กลับไปสูบซ้ำ เช่น มวนเดียวไม่เป็นไร กลิ่นบุหรี่ วงเหล้า สภากาแฟ เป็นต้น การเลิกบุหรี่ได้จะต้องหยุดสูบได้ต่อเนื่องนาน 1 ปีขึ้นไปจึงจะถือว่าเลิกได้ และเมื่อเลิกได้ก็มีโอกาสกลับไปสูบซ้ำได้เช่นกันและการพยายามเลิกในครั้งต่อไปจะเลิกได้ยากกว่าครั้งแรกค่ะ หากคิดจะเลิกแล้วต้องเลิกให้เด็ดขาด
2. วิธีลดจำนวน ภายใน 1 เดือน มีหลักการดังนี้
- อาทิตย์ที่1 ให้ลดจำนวนมวนที่สูบจากเดิมเป็นครึ่งหนึ่ง บริหารจัดการให้ดีใน 1 วัน
- อาทิตที่ 2 ลดจำนวนมวนจากอาทิตย์แรกลงมาอีกครึ่งนึง
- อาทิตย์ที่ 3 ให้ลดจำนวนลงจากอาทิตที่2 อีกครึ่งนึง
-อาทิตย์สุดท้ายของเดือน คุณจะต้องไม่สูบเลยแม้แต่มวนเดียว
วิธีการลดจำนวนจะช่วยปรับร่างกายทำให้เกิดอาการผิดปกติจากภาวะขาดนิโคตินน้อยลงค่ะ