June 08, 2019 22:59
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากได้มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องแล้ว โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 2% เท่านั้นครับ ทำให้ในกรณีนี้ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีก
แต่ถ้าหากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ไม่เป็นไรครับ เพียงแต่ว่าการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างขึ้นได้เท่านั้น เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม ตกขาวมากขึ้น เลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอด
ในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้ใจเย็นๆและรอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนเนื่องจากโอกาสที่จะตั้งครรภ์มีได้น้อยมากตามที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือหนูอะ มีพสม.สองรอบค่ะ รอบแรกได้กินยาคุมฉุกเฉินแล้วค่ะ ซึ่งแบบมีเลือดออกมาแล้วหลังจากกินยาไป7วันค่ะ
แล้วรอบสองซึ่งห่างจากรอบแรกประมาณอาทิตย์กว่าๆค่ะ แต่ใส่ถุงยางตามที่บอกไปอ่ะค่ะ หนูอยากรู้ว่า ประจำเดือนหนูจะมาเมื่อไหร่อะคะ มันจะคลาดเคลื่อนนานมั้ยอะคะ
ถ้ามีอะไรกับแฟน ตอนเป็นประจำเดือน วันที่3 ใส่ถุงยางเช็คแล้วไม่รั่ว แล้วรีบกินยาคุมฉุกเฉินเลยเพราะเครียดกลัว เป็นคนประจำเดือนมาสั้นสุด27วัน ยาวสุด32วัน แบบนี้จะมีโอกาสท้องไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)