April 28, 2019 17:29
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรักษาโรคซึมเศร้านั้นสามารถทำได้โดยการรับประทานยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมองใหม่ครับ ซึ่งจะต้องมีการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันอย่างน้อย 6-9 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและชนิดของโรคว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคไบโพลาร์ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักมาจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้ความคิด อารมณ์ พฤติกรรมของเราผิดปกติ
การรักษาจำเป็นต้องรักษาด้วยยาเพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ร่วมกับการทำจิตบำบัดเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทำให้ยอมรับ เข้าใจปัยหาและเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสมค่ะ
ในกรณีที่หนูทำแบบประเมินมาแล้ว พบว่ามีอาการเข้าข่ายซึมเศร้า แนะนำให้พบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสม
ในระหว่างทำการรักษา ควรดูแลตัวเองโดยการทานยาอย่างสม่ำเสมอ หมั่นออกกำลังกายหรือ ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ไม่หยุดยาเอง และไปพบแพทยืก่อนนัด แล้วอาการจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับค่ะ หากไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสมจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น ต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในส่วนของเรื่องที่เล่ามาอย่างที่คุณหมอและพี่นักจิตวิทยาได้บอกไว้นะครับ ว่าหากความรู้สึหรืออาการเหล่านี้มันเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้รู้สึกว่าการใช้ชีวิตประจำวันยากขึ้น ตรงนี้ก็ลองเข้ารับการบริการจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการดูแล และนำทักษะความรู้บางอย่างกลับไปใช้ดูแลตนเองให้ได้มากขึ้นนะครับ
นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความเครียดลดลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หนูอายุ16ค่ะ คือรูู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้ากับไพโบล่าร์ หนูมีอาการตรงกับที่อ่านเจอมากกว่าห้าข้อของทั้งสองโรค ตอนเด็กก็เคยคิดฆ่าตัวตายอยู่บ่อยมาก คือจะรักษาให้หายขาดต้องทำยังไงคะ? รู้สึกแย่มากๆ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)