พอดีวันที่8ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนครับ ใส่ถุงยางแต่รูดลงมาไม่สุดโคนแต่เอามือจับไว้ แล้วแฟนก็อยู่ด้านบนดำเนินกิจกรรมได้ไม่ถึง5-6ครั้ง บ ถุงยางเกิดแตกจากการใส่ไม่ดี แต่ผมยังไม่เสร็จ เพราะพึ่งเริ่มการสอดใส่ เมื่อถอดถุงออกมาผมจับที่อวัยวะเพศของผมเพื่อเช็คว่าไม่มีน้ำอสุจิเล็ดลอดออกมา และมีแค่สารหล่อลื่นในถุงยาง แฟนจึงกินยาคุมฉุกเฉินภายใน 1ชม ของวันที่8 จากนั้นประมาณวันที่16ได้มีเลือดและอาการปวดท้อง ซึ่งรอบปจด.ของเดือนที่แล้วคือวันที่14พค อยากถามว่าเลือดที่ออกมาประมาณ2-3วันคือปจด หรือผลข้างเคียงของยาครับ ช่วงประมาณต้นเดือนแฟนมีอาการเครียดจากงานและพักผ่อนน้อย และช่วงประมาณวันที่10กว่าได้ใช้ที่ตรวจครรขึ้น1ขีดปกติ และ ตรวจซ้ำวันที่21,21ก็1ขีดครับรวมๆแล้วใช้ที่ตรวจประมาณ6-7อันเพื่อความชัวครับ และช่วงนี้ประมาณ5-6วันแฟนมีอาการหน้าอกคัด มึนหัว อ่อนเพลีย อยากอาหาร อยากทราบว่าปจด.จะมาอีกเมื่อไรครับ และผลการตรวจเชื่อถือได้ใช่มั๊ยครับ

สวัสดีครับ
ถ้าหากถุงยางอนามัยมีการแตกรั่วระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นคร้บ แต่ถ้าหากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วโอกาสตั้งครรภ์ก็จะลดลงไปได้ 75-85%

หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ ส่วนประจำเดือนนั้นก็ควรจะยังมาในลักษณะที่ใกล้เคียงกับประจำเดือนในเดือนที่ผ่านมาอยู่ ถ้าหากเลือดที่ออกมาออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็อาจเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินเท่านั้นครับ

การตรวจปารตั้งครรภ์ที่จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้นจะต้องตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ จึงจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ ดังนั้นถ้าหากได้มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม วันแรกที่จะเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้คือตอนเช้าของวันที่ 22 กรกฎาคมครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์แล้วครับ

ส่วนประจำเดือนรอบต่อไปนั้นจะบอกได้ยากว่าจะมาอีกครั้งเมื่อไหร่เนื่องจากแฟนของคุณมีการขาดประจำเดือนมากว่า 2 เดือนแล้ว ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าถ้าประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

ถ้าเช่นนั้นผลตรวจการตั้งครรภ์ข้างต้นก็เชื่อถือได้แล้วครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุของการขาดประจำเดือนเพิ่มเติม โดยเฉพาะถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆครับ

ความเครียดอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ครับ

อาการข้างต้นยังไม่ได้มีความจำเพาะต่อการตั้งครรภ์ครับ ในเบื้องต้นหมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ไปตามวิธีที่หมอแนะนำไปก่อน ยังไม่ควรต้องกังวลในตอนนี้ครับ

ผลตรวจการตั้งครรภ์ข้างต้นที่ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายมากง่า 1 เดือนแล้วจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้แล้ว ในกรณีนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ครับ

อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะไม่มีผลให้ประจำเดือนขาดหายไปนานครับ ในกรณีนี้ประจำเดือนจึงน่าจะขาดหายไปจากสาเหตุอื่นๆมากกว่า เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

ถ้าหากเลือดเพิ่งออกมาได้ไม่นานก็อาจใจเย็นๆและรอสังเกตดูลักษณะเลือดไป 2-3 วันก่อนได้ครับว่าจะมีลักษณะที่เหมือนประจำเดือนตามปกติหรือไม่

เลือดที่ออกมาติดต่อกัน 2-3 วันยังมีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนได้ครับ และในกรณีนี้ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจไปแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็ไม่ควรต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์แล้วครับ