ตอนนี้ปวดท้อง และแน่นท้องมากๆครับ เป็นมา 2-3 วันแล้ว ตอนแรกยังไม่แน่นท้อง เลยเข้าใจว่าท้องเสีย แต่ตอนนี้คือแน่นทั้งวัน เลยคืดว่าเป็นท้องผูกอาหารไม่ย่อย กินยาลดกรดแล้วหายแปปเดียว แล้วก้กลับมาแน่นอีก ควรทำยังไง สรุปแล้วเป็นอะไรกันแน่ครับ

สวัสดีครับ
อาการปวดท้องแบบแน่นท้องนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ผลจากการท้องผูกไม่ถ่ายอุจจาระบ่อยๆ
- อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อยจากการรับประทานอาหารที่มากเกินไป
- โรคกระเพาะ
- อาหารเป็นพิษ ในกรณีนี้มักทำให้มีอาการอาเจียนร่วมด้วย
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็จำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุก่อนครับ

ถ้าหากได้รับประทานยาลดกรดในเบื้องต้นไปแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

สาเหตุบองอาการปวดแน่นท้องนั้นมีได้หลายสาเหตุและบริเวณตำแหน่งที่เป็นครับ
เช่น
1.อาการปวดท้อง จากโรคกระเพาะอาหารอักเสบ มักปวดท้องที่ลิ้นปี่ ปวดท้องซ้ายบน มักมีอาการแสบท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียนได้
2.อาการปวดท้อง ลำไส้ติดเชื้อและอักเสบ มักมีอาการปวดบีบท้องทั่วๆท้องและท้องส่วนล่าง อาจมีอาเจียน ถ่ายเหลว มีไข้ได้
3.อาการปวดท้อง จากถุงน้ำดีและท่อน้ำดีอักเสบ มักปวดท้องขวาบน อาจมีไข้ ตัวเหลือง คันผิวหนัง อาการปวดมักเป็นหลังทานอาหารมื้อหนัก
4.อาการปวดท้องไส่ติ่งอักเสบ มักเป็นบริเวณสะดือย้ายปวดมาขวาล่างท้องน้อย อาจมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เยื่ออาหาร ได้ครับ

5.อาการปวด จากตับอักเสบ และตับอ่อนอักเสบ มักปวดกลางลิ้นปี่ร้าวไปหลัง มักพบในคนอ้วน ทานอาหารไขมันสูง กินเหล้าเบียร์ประจำ

ฉะนั้น หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมครับ

เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการที่แน่ชัด หมอจึงยังไม่สามารถให้คำแนะนำได้อย่างชัดเจนว่ายังควรรับประทานโยเกิร์ตและยาลดกรดอยู่หรือไม่นะครับ

ในกรณีนี้จึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนจะดีที่สุดครับ