August 31, 2019 19:54
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
เป็นผลจากยาคุมฉุกเฉินได้ครับ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
.........
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์ กรณีกินยาคุมฉุกเฉิน
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
หรือสาเหตุอื่น เช่น
- เป็นเลือดจากเเผลในช่องคลอด ที่มีการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์
- เลือดเก่าๆในมดลูก ที่ค้างจากรอบประจำเดือน สีน่าจะคล้ำหน่อย
ยกเว้นออกมากชุ่มผ้าอนามัย4-5ผืน ปวดท้องน้อยมากๆ ควรพบสูตินรีเเพทย์โดยเร็วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในช่วงหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้เล็กน้อยครับ
แต่ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก หรือออกมาติดต่อกันนานกว่า 7 วันหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมเนื่องจากในกรณีนี้อาจเกิดจากความผิดปกติอื่นได้ เช่น การอักเสบติดเชื้อ ความผิดปกติของมดลูกหรือปากมดลูกครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
กรณีประจำเดือนมาแบบกระปริบกระปรอย /เลือดออกกระปริบกระปรอยทางช่องคลอด อาจเกิดจากสาเหตุหลายอย่างครับ
>>แต่ก่อนจะวินิจฉัยอาการเลือดออกผิดปกติใดๆ ขอให้คนไข้ ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองก้อนนะครับ หากคนไข้มีความเสี่ยงกับการตั้งครรภ์ครับ
>>หากคนไข้มีความเสี่ยงกับการตั้งครรภ์ เนื่องจากการวินิจฉัยและรักษา จะแตกต่างออกไปค่อนข้างมากจากผู้ที่ไม่ตั้งครรภ์ครับ
ตัวอย่างเช่น
- การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด เช่น ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน การฝังยาคุมกำเนิดช่วงแรกๆ หรือการฉีดยาคุมกำเนิด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช เป็นต้น
- โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ กระปริบกระปรอยได้
- ภาวะ ฮอร์โมน ไม่ปกติ ซึ่งมีหลายชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
- เนื้องอก เช่น เนื้องอกในมดลูก [myoma ] เป็นต้น กรณีนี้อย่าเพิ่งกังวลใจนะครับ แนะนำให้ตรวจก่อนครับ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีอาการเลือดออกทางช่องคลอดค่ะแต่ไม่ใช่ประจำเดือน (เป็นหลังประจำเดือนประมาณ17วันนับจากประจำเดือนวันแรก) คือ เป็นประจำเดือนวันที่13 หยุดจริงๆวันที่ 17 แล้วมีพสพ.วันที่22ค่ะไม่ได้ป้องกันแต่ไม่ได้หลั่งใน วันที่23เลยไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทาน แล้วมาวันที่ 29มีอะไรอีกครั้งแล้วเห็นว่ามีเลือดออกช่องคลอดเล็กน้อย เลยคิดว่าเป็นเรื่องปกติแต่พอวันต่อมาไปฉี่แล้วเห็นมีเลือดค้างอยู่ในช่องคลอด แต่ไม่ได้ไหลออกมาติดกางเกงในเหมือนประจำเดือนก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นผลค้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน เลยใส่ผ้าอนามัยไว้ วันนั้นมีเลือดกระปริบกระปรอยเป็นเลือดสีแดงสดอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นแต่พอวันต่อมาก็ใส่ผ้าอนามัยเหมือนเดิมพบว่าเลือดมีสีน้ำตาลเข้ม เป็นลิ่ม ไม่มีกลิ่น อยากทราบว่าอาการแบบนี้อันตรายหรือเปล่า หรือเป็นเรื่องปกติคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)