August 25, 2019 13:46
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
การตั้งครรภ์ ในผู้หญิงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการตกไข่ในผู้หญิง และมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีการตกไข่เท่านั้น (ส่วนใหญ่ในช่วงประมาณ14วันนับจากประจำเดือนวันแรกครับ) ถ้ามีการสอดใส่ หรือไม่มีการป้องกัน ก็จะมีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ครับ
โดยการมีเพศสัมพันธ์ด้วยวิธีหลั่งข้างนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 20%
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพประมาณเกือบ 90% หากทานถูกวิธีภายในวันแรกครับ ประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อยๆตามเวลาที่ทานครับ
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมาแม้ผลปกติครับ
และแนะนำให้คุมกำเนิดก่อนมีเพศสัมพันธ์จะดีกว่าครับ เช่น ยาคุม ยาฝัง และใช้ถุงยางอนามัยครับ
เพราะยาคุมฉุกเฉินจะจะทำให้สภาพแวดล้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลง ไม่ให้เกิดการปฏิสนธิหรือไม่ให้เกิดการฝังตัว และทำให้มีผลต่อฮอร์โมน ผู้ใช้อาจมี ประจำเดือนผิดปกติ คลื่นไส้ ถ้าใช้บ่อยเพิ่มความเสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลหยุดเลือดประจำเดือนค่ะ ดังนั้น ถ้าเลือดที่ออกมาไม่ใช่ประจำเดือนจริง ๆ ผู้ถามก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 15% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉินนะคะ
แต่ถ้าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนจริง ๆ ซึ่งน่าจะมาต่อเนื่องและมากขึ้นหลังจากนี้ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงน้อยมากที่จะตั้งครรภ์ แต่ผู้ถามจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานได้มากจากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือนค่ะ
ดังนั้น...
1. ในช่วงนี้ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนนะคะ
2. ถ้าไม่มีเลือดออกมาอีกเลย หรือเลือดที่ออกมาไม่ได้มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัยตามลักษณะของประจำเดือนปกติ ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
3. หากไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ต่อไปควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ
4. ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ตอนมีประจำเดือน หากมั่นใจว่าเป็นประจำเดือนจริงๆ โอกาสการตั้งครรภ์น้อยมากครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นกับช่วงเวลา เช่น วันท้ายๆ เช่น วันที่ 7 ขึ้นไป หรือ ประจำเดือนลักษณะไม่ปรกติ กระปริบกระปรอย อาจทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้เช่นกันครับ
นอกจากนี้ ช่วงมีประจำเดือน ผู้หญิงจะเป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิด ทำให้ อาจมีการจิดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจทำให้อาการเป็นมาก และรุนแรง และหากติดเชื้อโดยไม่รักษา อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ครับ
แนะนำว่า แม้จะค่อนข้างปลอดภัยสำหรับการตั้งครรภ์ แต่ก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยมาก จึงไม่แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์ช่วงมีประจำเดือน หรือหากจำเป็นจริงๆ ควรใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะอยากทราบว่าจะเป็นอะไรไหมคะ คือเมื่อวานเป็นวันที่ประจำเดือนมาวันเเรก เเล้วช่วงประมาณตี3ได้มีพสพ.กับแฟนไม่ได้ป้องกันเเต่หลั่งนอกนะคะ หลังจากนั้นประจำเดือนก็มาปกติจนช่วงเช้าได้กินยาคุมฉุกเฉินไปเเล้วประจำเดือนหายค่ะอยากรู้วาจะท้องไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)