เหมือนเป็นกรดไหลย้อยคะตอนนี้แน่นจุกลิ้นปี่ ทั้งที่กินอาหารและยังไม่ได้กิน เหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอหายใจไม่สะดวก และตอนนี้ปวดหลังกับปวดท้องน้อยด้วยคะน่าจะเป็นเพราะประจำเดือนใกล้มาและประจำเดือนม่ไม่เคยตรงกันเลยคะ พอดีมีประจำเดือนวันแรก30-3พ.คและได้มีเพศสัมพันโดยสวมถุงยาง ไม่แตกไม่รั่ว คะจนตอนนี้30พ.คแล้วประจำเดือนยังไม่มา แต่ซื้อที่ตรวจครรภ์มาหลายอันตรวจหลายอันแล้วพบว่าขึ้นขีดเดียวคือไม่ท้อง เชื่อถือได้ไหมคะ เพราะตอนนี้ประจำเดือนนังไม่มาแต่ปวดหลังกับท้องน้อยเหมือนจะมาแต่ไม่มาสักที หรือเพราะความเครียดด้วยคะ เพราะตอนนี้เครียดมากๆๆ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ควรต้องประเมินวิธีตรวจการตั้งครรภ์ที่ผ่านมาด้วยว่าได้ตรวจอย่างถูกต้องหรือไม่

การตรวจการตั้งครรภ์ที่จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นการตรวจเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ถ้าหากตรวจได้ถูกต้องตามนี้ก็จะสามารถเชื่อถือผลตรวจได้ 97-99% แต่ถ้าหากยังตรวจได้ไม่ถูกต้องหมอก็แนะนำให้ตรวจใหม่อีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมครับ

ในกรณีที่มั่นใจได้แล้วว่าไม่มีการตั่งครรภ์ประจำเดือนก็ยังอาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

นอกจากนี้ถ้าหากอาการปวดท้องเป็นติดต่อกันมาหลายวันแล้วและมีอาการปวดรุนแรงมากโดยที่ประจำเดือนยังไม่มาก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการปวดท้องด้วยครับ

ในระยะแรกของการตรวจการตั้งครรภ์นั้นควรใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจเนื่องปัสสาวะในช่วงนี้เป็นปัสสาวะที่จะมีระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์เข้มข้นมากที่สุด ทำให้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ตรวจจับได้ง่ายที่สุดครับ

ถ้าหากการตรวจการตั้งครรภ์ที่ผ่านมานั้นได้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและมีอย่างน้อย 1 ครั้งที่ใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจแล้ว ก็มั่นใจได้ 97-99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ

ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องกังวลครับ ในกรณีนี้ประจำเดือนน่าจะขาดหายไปจากสาเหตุอื่นมากกว่า ซึ่งก็เป็นไปได้จากหลายๆสาเหตุตามคำตอบแรกครับ

ในกรณีนี้สามารถรอสังเกตประจำเดือนต่อไปได้อีกระยะหนึ่งก่อน แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ

การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดีวิธีหนึ่งครับ ถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องไม่มีการแตกรั่วทุกครั้งโอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็เป็นไปได้ยากมาก และในกรณีนี้ที่มีผลตรวจการตั้งครรภ์เป็นตัวช่วยยืนยันแล้วก็ยิ่งไม่ควรต้องกังวลครับ

การดูแลตัวเองสำหรับโรคกรดไหลย้อนแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารดังนี้ครับ
- ไม่รับประทานอาหารจนอิ่มแน่นเกินไป
- หลีกเลี่ยงการรับประทานของมันของทอด อาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ไม่ล้มตัวลงนอนภายใน 4 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร

และนอกจากนี้ก็ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอครับ