ขอสอบถามค่ะ กินยาคุมดิเออร์ร่า21 กินหลังจากมีประจำเดือนได้4วัน พอกินแล้วประจำเดือนก็หยุดเลย ปกติจะเป็น7วันสาเหตุที่กินคือมีอะไรกับแฟนแบบไม่หลั่งใน แต่ไม่ได้ใส่ถุง หลังจากกินยาคุมตั้งแต่เริ่มกินเม็ดแรกก็มีอาการ เวียนหัว ปวดท้อง อาเจียน ตกขาวไหลเยอะมาก ตอนนี้กินยามคุมมาได้13วันแล้ว ตกขาวเยอะทุกวันและมีอาการทุกวัน อยากรู้ว่ามันเกิดจากอะไร แล้วควรกินยาต่อไหม.

สวัสดีครับ
อาการเวียนศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีตกขาวมากขึ้นนั้นอาจเป็นผลข้างเคียงมี่เกิดจากการรับประทานยาคุมได้ครับ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเป็นมากที่สุดในช่วงที่เพิ่งเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกๆ แต่ก็อาจสามารถลดอาการจากผลข้างเคียงเหล่านี้ได้โดยการรับประทานยาในช่วงก่อนนอนครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รับประทานยาคุมต่อเนื่องไปจนหมดแผงก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความแปรปรวนของฮอร์โมนครับ เมื่อรับประทานยาคุมหมดแผงแล้วถ้าหากคาดว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกก็สามารถหยุดรับประทานยาคุมได้ หรือถ้าหากยังต้องมีเพศสัมพันธ์อยู่และยังไม่สามารถทนกับผลข้างเคียงมี่เกิดขึ้นได้ก็สามารถเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมไปรับประทานยาคุมที่มีฮอร์โมนต่ำกว่า เช่น มินิดอซ ไมนอซ ยาส ได้ครับ หรืออาจเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ใช้ถุงยางอนามัย ฉีดยาคุม ฝังยาคุม ก็ได้เช่นกัน

การมีเลือดออกทางช่องคลอดมาเล็กน้อยอาจเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการรับประทานยาคุมได้เช่นกันครับ แต่ถ้าหากไม่ได้รับประทานยาคุมติดต่อกันมา 3 วันแล้วก็อาจไม่จำเป็นต้องกลับไปรับประทานยาคุมอีกเนื่องจากยาคุมจะเสียประสิทธิภาพการคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องไปแล้ว แต่ถ้าหลังจากนี้จะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้งจนกว่าจะมีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นต่อครับ

ถ้าหากนับตั้งแต่วันที่หยุดรับประทานยาคุมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลยโอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ก็มีน้อยมากครับ โดยการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่รับประทานยาคุมอยู่จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ

การหยุดรับประทานยาคุมกำเนิดอย่างกระทันหันจะทำให้ระดับฮอร์โมนในเลือดแปรปรวนไปได้ตามที่หมอได้อธิบายไปครับ ในกรณีนี้จึงอาจมีเลือดหรือประจำเดือนออกมาในเวลาที่ไม่เหมาะสมได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติครับ

แต่ถ้าหากเลือดดังกล่าวออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก หรือออกมาติดต่อกันเกิน 7 วันหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมครับ