ไม่เคยกินยาคุมมาก่อน จะถามคุณหมอว่าถ้าเริ่มกินยาคุมนี้ กินตามแผงลูกศรเลยใช่ไหมอ่าคะ พอดีว่างง

ก่อนอื่นต้องถามน้องว่า เดือนนี้ประจำเดือนมาหรือยังค่ะ แล้วเลือกแบบ 21 หรือ 28 เม็ด นะคะ
1.ถ้าเลือกแบบ 21 เม็ด การกินยาแผงแรก สามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1-10 ของการมีประจำเดือน (แต่วันที่ 5 จะเหมาะสมที่สุด) โดยเลือกเม็ดยาให้ตรงกับวันที่เริ่มกินยา เช่น เริ่มเม็ดแรกวันจันทร์ ก็ให้กินเม็ดที่ด้านหลังแผงเขียนว่า “จ” หรือ “Mon” กินคืนละ 1 เม็ด ก่อนนอนทุกคืน ตรงเวลา ห้ามลืมกิน โดยกินไปตามลูกศร จนครบ 21 เม็ด เมื่อหมดแผงแรกแล้ว ให้หยุดยา 7 วัน แล้วจึงเริ่มกินยาแผงใหม่ต่อไป โดยในช่วง 7 วันที่หยุดยา จะมีประจำเดือนมา ไม่ต้องสนใจว่าจะมากี่วัน ถึงแม้จะยังไม่หมด แต่เมื่อหยุดยาแผงแรกครบ 7 วันแล้ว ก็เริ่มยาแผงใหม่ได้เลย
2.ถ้าเลือกแบบ 28 เม็ด การกินยาแผงแรก ให้เริ่มกินในวันแรกที่มีประจำเดือน โดยให้เริ่มกินในส่วนที่เป็นสีแดงในด้านหลังของแผง และเลือกเม็ดยาให้ตรงกับวันแรกของการมีประจำเดือน กินคืนละ 1 เม็ด ก่อนนอนทุกคืน ตรงเวลา ห้ามลืมกิน โดยกินไปตามลูกศร จนครบ 28 เม็ด เมื่อกินหมดแผงแล้ว สามารถเริ่มยาแผงต่อไปได้ทันที โดยไม่ต้องสนใจว่ากำลังมีประจำเดือนอยู่หรือไม่ค่ะ

ขอแก้ไขข้อมูลนะคะ
1. สำหรับยาคุมแผงแรกแนะนำให้ใช้ภายในวันที่ 1 - 5 ของการมีประจำเดือนค่ะ (ไม่ใช่วันที่ 1 - 10 ตามความเห็นแรกนะคะ) ในกรณีที่มีประจำเดือนมาในวันนี้ สามารถเริ่มใช้ได้เลยค่ะ หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 5 ที่มีประจำเดือน (นับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1) หากรับประทานภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดยาฮอร์โมนเม็ดแรกทีรับประทานค่ะ สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลย ไม่ต้องใช้ถุงยางร่วมด้วย

2. หนูใช้ยาคุมยี่ห้ออะไรคะ ขอทราบชื่อยาคุมด้วยค่ะ จะได้อธิบายได้ชัดเจนว่าการบอกในภาพรวมค่ะ

ถ้าเช่นนั้น สามารถเริ่มรับประทานเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือนได้เลยค่ะ เริ่มวันใดก็ได้ใน 5 วันนี้ เมื่อรับประทานแล้วถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางร่วมด้วย

ส่วนวิธีใช้นั้น เนื่องจากด้านหลังแผงของยาสมิน จะระบุตัวอักษรย่อของวันในสัปดาห์ไว้ เพื่อให้ตรวจสอบการใช้ยาได้ง่ายว่าลืมรับประทานหรือไม่ แนะนำให้แกะเม็ดยาให้ตรงกับวันที่ใช้ค่ะ เช่นวันพฤหัสบดี ก็ให้แกะที่ตำแหน่ง "พฤ" ซึ่งจะมีอยู่ 3 ที่ในแผง สามารถใช้ตรงไหนก็ได้ค่ะ แล้วแต่สะดวก จากนั้นก็ให้แกะใช้เรียงตามลูกศร (ซึ่งจะตรงกับวันที่ใช้จริง) ไปเรื่อย ๆ จนหมดแผงค่ะ แต่ถ้าแกะผิดเป็นย้อนศรก็ไม่มีปัญหานะคะ เพราะยาทุกเม็ดในแผงเหมือนกันหมดทุกเม็ดค่ะ ที่เรียงลำดับไว้เพื่อให้ง่ายต่อการใช้และตรวจสอบการใช้เท่านั้นค่ะ

เมื่อหมดแผงแล้ว ให้เว้นว่าง 7 วันแล้วจึงต่อแผงใหม่ การต่อแผงจะไม่สนใจวันที่มีประจำเดือนแล้วนะคะ แต่จะต้องต่อแผงหลังเว้นว่างครบ 7 วันค่ะ ซึ่งประจำเดือนจะมาในช่วงนี้ อาจเป็นหลังใช้ยาหมดไป 2 - 3 วัน และแม้ว่าเว้นว่างครบ 7 วันแล้ว ประจำเดือนจะยังไม่หยุด ก็ให้ต่อแผงใหม่ได้เลยนะคะ ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อน และหากที่ผ่านมามีการรับประทานยาทุกวัน ในช่วงเว้นว่าง 7 วันนี้ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นเดียวกันกับช่วงที่รับประทานยาค่ะ แต่ควรหลีกเลี่ยงวันที่มีประจำเดือนนะคะ เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่าย

แนะนำให้รับประทานก่อนนอนเพื่อลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยาค่ะ แต่ควรตรงเวลาสม่ำเสมอ นั่นคือ ให้พิจารณาว่าปกติมักจะนอนในเวลาใด ก็ยึดเวลานั้นเป็นเวลารับประทานยาค่ะ หากรับประทานคลาดเคลื่อนไปบ้าง 1 - 2 ชั่วโมง ก็ไม่เป็นไร แต่อาจทำเกิดให้เลือดกะปริบกะปรอยได้ (อย่างไรก็ตาม การใช้แผงแรก อาจมีอาการนี้อยู่แล้วค่ะ แม้ว่าจะรับประทานยาตรงเวลาก็ตาม) แต่หากผิดเวลาบ่อย ๆ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลงได้ค่ะ จึงควรรับประทานยาให้ตรงเวลาไว้ก่อนดีกว่า

หากมีปัญหาจากการใช้ยา สามารถสอบถามเพิ่มได้นะคะ ไม่ได้แจ้งข้อมูลทั้งหมดให้ทราบในทีเดียว เพราะเนื้อหาจะยาวและอาจทำให้สับสนได้ค่ะ

สามารถบริจาคเลือดได้นะคะ ไม่มีปัญหาค่ะ

- ควรมีการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละครั้ง นอกจากเพื่อทราบสถานะทางสุขภาพทั่วไปแล้ว ยังนำมาพิจารณาว่ามีข้อจำกัดในการใช้ยาคุมกำเนิดหรือไม่ด้วยค่ะ
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากผู้ที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด อาจเน้นเฉพาะการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ละเลยต่อการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยถุงยางอนามัย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ในช่วงแรกอาจเป็นการตรวจทุกปี เมื่อผลตรวจปกติต่อเนื่องกัน จึงเว้นช่วงห่างมากขึ้นตามการแนะนำของแพทย์นะคะ
- ตรวจเต้านมด้วยตัวเองสม่ำเสมอ หากพบก้อนเนื้อหรือถุงน้ำก็ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมได้เล็กน้อยค่ะ

หากต้องการหยุดใช้ แต่ไม่ได้มีผลข้างเคียงรุนแรงที่ทำให้ทนใช้ยาคุมต่อไม่ได้ แนะนำให้ใช้จนหมดแผงแล้วไม่ต้องต่อแผงต่อไปนะคะ เพื่อที่ประจำเดือนจะไม่แแปรปรวน ซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนผิดปกติค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากทนผลข้างเคียงจากยาคุมไม่ได้ และหยุดรับประทานยาคุมไปแล้ว ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์แทนค่ะ

หากต้องการหยุดใช้ยาคุมเพียงเพราะกังวลเรื่องมะเร็งตามที่กล่าวไปแล้ว แนะนำว่าไม่ต้องกังวลขนาดนั้นนะคะ เพราะมะเร็งปากมดลูกจะสัมพันธ์กับการติดเชื้อ HPV ที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันกับผู้ที่มีเชื้ออยู่ ดังนั้น หากมั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีพฤติกรรมเสี่ยง โอกาสเป็นก็น้อยค่ะ และต่อให้ใช้ยาคุมหรือไม่ใช่ยาคุม ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยงก็มีโอกาสเป็นได้อยู่ดี จึงควรมีการตรวจคัดกรองเป็นประจำไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ยาคุมก็ตามค่ะ

ส่วนมะเร็งเต้านม พบได้อยู่แล้วต่อให้ไม่ใช้ยาคุมกำเนิดก็ตาม การใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็มีประโยชน์คือช่วยลดการเกิดมะเร็งรังไข่และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้นะคะ

ดังนั้น หากต้องการคุมกำเนิด และไม่มีข้อห้ามใช้ยาคุมก็สามารถใช้ได้ค่ะ แต่ควรมีการตรวจตามที่แนะนำไปอย่างสม่ำเสมอเพื่อคัดกรองความเสี่ยง ซึ่งต่อให้ไม่ใช้ยาคุมเลยก็ควรต้องทำเช่นกันค่ะ

ถ้าหมายถึงประจำเดือนในวันท้าย ๆ ที่อาจออกมาเล็กน้อย นั่นก็คือประจำเดือนนะคะ จำนวนวันที่มีประจำเดือน ตามปกติก็อยู่ในช่วง 2 - 7 วัน แต่ผู้ที่ใช้ยาสมิน เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ ประจำเดือนน่าจะมีน้อยวันค่ะ

แต่ถ้าเป็นเลือดกะปริบกะปรอยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประจำเดือน เมื่อใช้ยาคุมไป 2 - 3 แผงก็จะหายไปเอง การรับประทานยาคุมให้ตรงเวลาจะช่วยลดปัญหาเลือดกะปริบกะปรอยได้ค่ะ

ผลดีคือ ไม่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์

แต่ผลเสียก็คือ เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งนอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังอาจส่งผลให้มีบุตรยากในอนาคตได้ด้วยค่ะ

ใช้ยาคุมยาสมินตามที่เคยให้ข้อมูลใช่มั้ยคะ การรับประทานเร็วหรือช้ากว่าเวลาปกติไม่เกิน 1 - 2 ชั่วโมงไม่มีปัญหาค่ะ มีผลคุมกำเนิดได้ตามปกติ ให้รับประทานต่อตามเดิมได้เลย

แต่หากรับประทานผิดเวลาบ่อย ๆ อาจมีปัญหาเลือดกะปริบกะปรอยได้นะคะ การรับประทานตรงเวลาจึงดีที่สุดค่ะ

รับประทานผิดเวลาเหลื่อมกันนิดหน่อยไม่เป็นอะไรครับ แต่ต้องทานทุกวันสม่ำเสมอ ครับ ห้ามลืมรับประทาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดครับ

ไม่แนะนำยี่ห้อนะค่ะ เพราะอาจเป็นการโฆษณาได้ค่ะ
ในการเลือกใช้ไหมขัดฟันควรเลือกชนิดที่มีเส้นไหมขนาดเล็ก แบน และแผ่ออกได้เมื่อผ่านซอกฟัน สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้ อาจเลือกใช้ไหมขัดฟันชนิดเคลือบขี้ผึ้งเพื่อความสะดวกในการใช้งาน หากใช้จนชำนาญแล้วอาจเลือกใช้ไหมขัดฟันชนิดไม่เคลือบขี้ผึ้ง เพราะมีความคมมากกว่า สามารถขจัดคราบหินปูนเกิดใหม่ได้ดีกว่า ค่ะหรือปรึกษาทันตแพทย์ในการเลือกใช้ไหมขัดฟันให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลค่ะ

1. ยาคุมรายเดือนไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉิน ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วก่อนที่จะใช้ยา หรือก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยา ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรับประทานค่ะ เพราะต่อให้ใช้ต่อไปแต่การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังอยู่เหมือนเดิม

2. ยาอาจยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบเดือนนี้ไม่ทัน จึงเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ดังนั้น จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปจนกว่าจะรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อน

3. ในระหว่างที่รับประทาน "เม็ดยาฮอร์โมน" ของยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ผู้ใช้จะไม่มีประจำเดือนมา ดังนั้น การใช้ที่ไม่ตรงรอบปกติ ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ก็จะทำให้ประจำเดือนรอบนี้เลื่อนช้าออกไปมากขึ้นตามลักษณะของยาที่ใช้ค่ะ