May 26, 2018 15:57
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าเลือดที่ออกมาคือประจำเดือนจริง ๆ ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยจากสาเหตุอื่น ๆ ในกรณีนี้ มีโอกาสน้อยมากที่จะตั้งครรภ์ เนื่องจากไม่น่าจะมีไข่ตกในช่วงเวลาที่กล่าวมา และเยื่อบุมดลูกก็ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมรับการฝังตัวต่อให้มีไข่ตกและผสมกับอสุจิได้ แต่การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน จะมีโอกาสติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานได้สูงค่ะ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ไม่ได้แตกในนะค่ะ แล้วถ้านับมันตรงรอบเดือนพอดี เลือดไม่ได้มามากหรือน้อยเกินไป ตอนแรกจะกินยาคุมฉุกเฉิน แต่ไม่รู้ว่าจะกินดีไหม ขอคำแนะนำหน่อยค้้ะ. มันจะปลอดภัยไหมค้ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ถ้ามีการสอดใส่ จะหลั่งนอกหรือหลั่งใน ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ค่ะ เพียงแต่ความเสี่ยงของการหลั่งในจะมากกว่าหลั่งนอก อย่างไรก็ตาม การหลั่งนอกก็ถือว่ามีประสิทธิภาพไม่สูงเมื่อเทียบกับวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานค่ะ ดังนั้น ต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง อย่าใช้วิธีการนับวันปลอดภัย, การหลั่งนอก หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ
2. สำหรับในครั้งนี้ ถ้าเลือดที่ออกเป็นประจำเดือนจริง ๆ ช่วงเวลาที่กล่าวมาถือว่ามีความเสี่ยงน้อยที่จะตั้งครรภ์ค่ะ (ไม่สามารถจะยืนยันได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอน เพราะยังไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%) แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานค่ะ
3. โอกาสตั้งครรภ์ของการนับวันปลอดภัย หรือ "หน้า 7 - หลัง 7" คือ 5 - 24% นั่นหมายถึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 5% ในกรณีนี้ แต่การใช้ยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงค่ะ แม้ผลข้างเคียงไม่ได้รุนแรงอีกทั้งมีราคาไม่แพง จึงใช้ได้หากต้องการ เพียงแต่เมื่อเทียบกันแล้วในกรณีนี้น่าจะไม่จำเป็นต้องใช้
แนะนำให้พิจารณาตามนี้นะคะ...
- ถ้ามั่นใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนจริง ๆ + ที่ผ่าน ๆ มามีประจำเดือนมาตรงตามรอบสม่ำเสมอ + ประจำเดือนในแต่ละครั้งมาห่างกันไม่น้อยกว่า 28 วัน ในกรณีนี้ ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ
และหากคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ แนะนำให้เริ่มใช้ยาคุมรายเดือนเลยนะคะ หากรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้เลยตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ
- แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนหรือไม่ หรือที่ผ่านมาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอตรงเวลา หรือประจำเดือนมาเร็ว โดยมีระยะห่างกันน้อยกว่า 28 วัน หรือมีความกังวลใจมาก อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างร่วมกัน แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ โดยให้รับประทานครบขนาดในครั้งเดียว โดยเร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
4. และหลังจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือนค่ะ ไม่ว่าจะใส่ถุงยางหรือไม่ก็ตาม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2เม็ดพร้อมกันหรอค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้ยี่ห้อโพสตินอร์, มาดอนนา, แมรี่ พิงค์, นอร์แพ็ก หรือ เลดี้นอร์ ที่มีแผงละ 2 เม็ด แนะนำให้รับประทานพร้อมกัน 2 เม็ดครั้งเดียวค่ะ แต่ถ้าใช้ยี่ห้อเมเปิ้ล ฟอร์ท ซึ่งมีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทาน 1 เม็ดครั้งเดียว
ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด เป็นตัวยาเดียวกัน และปริมาณยารวมเท่ากันค่ะ จึงมีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่ต่างกัน สามารถเลือกใช้ยี่ห้อใดก็ได้ค่ะ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. วิธีดั้งเดิม ให้แบ่งรับประทานแยกเป็น 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
2. วิธีใหม่ ให้รับประทานครบขนาดในครั้งเดียว
ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ให้รับประทานโดยเร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
มีการศึกษาเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากยาชี้ว่า ทั้งสองวิธีมีผลข้างเคียงไม่แตกต่างกัน การศึกษาเดียวกันนั้นยังชี้ว่าประสิทธิภาพของทั้งสองวิธีก็ไม่ต่างกันด้วย แต่วิธีใหม่จะใช้สะดวกกว่า
อย่างไรก็ตาม การศึกษาใหม่ ๆ กลับให้ความเห็นว่าการรับประทานครบขนาดในครั้งเดียวมีประสิทธิภาพมากกว่าค่ะ เพราะระดับยาในเลือดสูงถึงระดับที่จะยับยั้งไข่ตกได้เร็วกว่า จึงแนะนำให้รับประทานครบขนาดในครั้งเดียวนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
มันมาประมาณ จากการมีประจำเดือนครั้งที่แล้ว25วันอ่ะค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ข้อมูลแค่นี้บอกอะไรไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ทราบว่าปกติแล้วผู้ถามมีระยะห่างของประจำเดือนเร็วหรือช้าแค่ไหน เนื่องจากรอบประจำเดือนตามธรรมชาติของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน
ดังนั้น หากปกติแล้วผู้ถามมักจะมีประจำเดือนแต่ละรอบห่างกันประมาณนี้เสมอ และเลือดที่ออกมาก็มีปริมาณมากเหมือนเวลาเป็นประจำเดือนปกติ เลือดที่ออกมาก็น่าจะเป็นประจำเดือนค่ะ
และแม้ว่าจะมีรอบเดือนสั้นกว่า 28 วัน (นับระยะห่างของวันแรกที่มีประจำเดือนในแต่ละรอบ) แต่เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 1 - 2 ของการมีประจำเดือน มีความเสี่ยงน้อยที่จะตั้งครรภ์ค่ะ ดังนั้น หากคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกสูตินรีเวชใกล้บ้าน เพื่อปรึกษาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสม เช่น ยาคุมรายเดือน, แผ่นแปะคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, ยาฝังคุมกำเนิด หรือห่วงอนามัยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อยากถามว่า ถ้ากินยาคุมฉุกเฉินไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่แล้ว ถ้ากินอีกเดือนนี้จะมีผลอะไรบ้างค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ หรือใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ ดังนั้น หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ได้รับประทานยาคุมรายเดือนมาก่อน แนะนำให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยนะคะ ถ้าใช้ถูกต้องและไม่มีการรั่วซึม จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ในขณะที่ต่อให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินเร็วที่สุด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15% (งานวิจัยใหม่ ๆ ชี้ว่าตัวเลขอาจสูงหรือต่ำกว่านี้ได้มากค่ะ)
ดังนั้น หากต้องการป้องกันการต้้งครรภ์ไม่พร้อม ควรเลือกใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงนะคะ ไม่ควรใช้วิธีนับวันปลอดภัย, การหลั่งนอก หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากใช้ถุงยางแล้วเกิดปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินสำรองได้ค่ะ จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้บ้าง แต่ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำไมวันนี้ประจำเดือนมาน้อยหรือแทบไม่มาเลยค่ะ มันเกิดจากอะไรหรอค่ะ แล้วควรทำยังไงให้มาเยอะค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ประจำเดือนคือเยื่อบุมดลูกที่หลุดลอกออกมานะคะ ถ้าเดือนไหนมีการหนาตัวของเยื่อบุมดลูกมาก เวลาหลุดลอกก็จะมาก ทำให้มีประจำเดือนเยอะ แต่ถ้าเดือนไหนมีการหนาตัวน้อย เยื่อบุมดลูกที่หลุดลอกก็จะน้อย จึงมีประจำเดือนออกปริมาณน้อยนั่นเองค่ะ
เพราะฉะนั้น ประจำเดือนในแต่ละรอบเดือนอาจมีไม่เท่ากันค่ะ ขึ้นกับฮอร์โมนในช่วงนั้น ๆ ที่จะทำให้เกิดการหนาตัวของเยื่อบุมดลูกมากหรือน้อย และการมีประจำเดือนน้อยกว่าที่เคยมี ก็ไม่ได้มีอันตรายหรือมีข้อเสียอะไร เพราะไม่ใช่การอั้นเลือดเสียไว้ในตัว
แต่ประจำเดือนปกติไม่ควรจะน้อยกว่าวันละ 20 - 30 มิลลิลิตร (คือควรจะมาอย่างน้อย 1 แผ่นผ้าอนามัยต่อวัน) และมาไม่น้อยกว่า 2 วัน ในกรณีที่มีประจำเดือนน้อยกว่าปกติอยู่เรื่อย ๆ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และพิจารณาว่าจำเป็นต้องรักษาหรือไม่ หรือรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปกติจะมามากจนปวดท้องเลยค่ะ แต่เดือนนี้มาน้อย วันนี้แทบไม่มาเลย ก็เลยกลัวที่จะท้องค่ะ เลยไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานค่ะ มันจะมีผลอะไรมากไหมค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือนค่ะ การรับประทานจึงไม่ได้ช่วยให้ประจำเดือนที่มีน้อยมามากขึ้นได้ และยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ใช่ยาทำแท้ง ดังนั้น สมมติว่ามีการตั้งครรภ์ไปแล้ว (ซึ่งในกรณีที่ตั้งครรภ์ก็ไม่ควรจะมีประจำเดือนแล้ว) ต่อให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิม
ในกรณีนี้ ถ้าเลือดที่ออกคือประจำเดือน ได้แนะนำไปแล้วเกี่ยวกับความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ในวันแรก ๆ ของการมีประจำเดือน ลองอ่านซ้ำนะคะ
แต่ถ้าเลือดที่ออกมาไม่ใช่ประจำเดือน แต่อาจเป็นเลือดกะปริบกะปรอยจากสาเหตุอื่น ๆ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์หากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้น ก็ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็ว หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ แต่ก็ต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบหรือไม่ เพราะยาคุมฉุกเฉินเองก็ไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ ดังนั้น หากเลือกที่จะไม่ป้องกันด้วยวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงตั้งแต่แรก ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงนี้ค่ะ
ผลข้างเคียงที่พบได้จากยาคุมฉุกเฉินไม่ค่อยรุนแรงค่ะ และอาจไม่เกิดขึ้นกับทุกคนที่ใช้ยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เลือดกะปริบกะปรอย หรือประจำเดือนคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ดังนั้น เมื่อใช้ไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลค่ะ
หากเลือดที่ออกนี้ไม่ใช่ประจำเดือน ก็ต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ หากไม่มั่นใจว่าใช่เลือดประจำเดือนมั้ย หรือไม่มีประจำเดือนมาตามปกติ ควรซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
หรือในกรณีที่กังวลใจมาก แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อปรึกษาการใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงค่ะ เพราะสามารถใส่ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงมาก มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% และยังมีผลคุมกำเนิดไปข้างหน้าได้นาน 3 - 10 ปีขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปลายเดือนที่แล้วค่ะมันมีเลือดกระปริบกระปอย(ริษของยาคุม)+มีประจำเดือนมาติดกัน มันจะมีผลต่อการมีประจำเดือนมาน้อยของเดินนี้ไหมค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
อาจมีผลหรืออาจไม่มีผลก็ได้ค่ะ ไม่สามารถระบุแน่ชัดได้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สมมุติว่ามันมีการท้องขึ้นมาจริงๆ จะมีประจำเดือนมาน้อยแบบนี้ไหมค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากตั้งครรภ์ จะไม่มีประจำเดือนนะคะ
ถ้ากังวลมาก แนะนำให้รอตรวจการตั้งครรภ์ดีกว่านะคะ จะชัดเจนกว่า หากรอ 14 วันเพื่อตรวจทางปัสสาวะไม่ได้ แนะนำให้ไปตรวจทางเลือดที่โรงพยาบาลก็ได้ค่ะ เพราะสามารถตรวจภายหลังมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 9 วันได้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แสดงว่าที่เขาพูดกันว่าเลือดล้างหน้าเด็กก็ไม่เป็นจริงหรอค้ะ
คือมีอะไรกับแฟนตอนมีประจำเดือนวันนี้ แต่มีประจำเดือดตั้งแต่เมื่อวาน จะท้องไหมค่ะ แล้วมีผลข้างเคียงอะไรไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)