คือหนูอายุ 25 ปี เป็นอ้วนมาน้ำหนักมากค่ะ แล้วช่วงนี้ชอบเจ็บครงหัวใจไปไหล่ซ้ายแขนซ้ายแล้วก็ข้างหลังด้านซ้าย มีบางครั้งที่เจ็บข้างขาวและตรงกลางด้วยค่ะแต่ด้านซ้ายจะรู้สึกเกือบคลอดเวลา แล้วก็ชอบนอนหลับแล้วสะดุ้งตื่นตอนกลางคืนแล้วหัวใจก็จะเต้นรัวแรงหรือสะดุ้งตื่นเพราะเจ็บตรงอกข้างซ้ายหรือเครียดก็จะรู้สึกเจ็บค่ะ พอเมื่อเช้าตื่นเช้ามาแล้วเกิดอาการบ้านหมุนค่ะทรงตัวไม่ได้เลยหรือเวลาที่จะนอนตะแครงซ้ายมันก็จะเวียนหัวบ้านหมุนทันทีเลยค่ะแล้วมีอาการเจ็บหูด้วยค่ะ(ตอนนี้เครียดและคิดว่าตัวเองจะตายมันยิ่งรู้สึกเจ็บขึ้นหายใจติดขัดค่ะ อาการประมาณนี้ค่ะ

สวัสดีครับ
สาเหตุของอาการเจ็บหน้าอกนั้นเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- การอักเสบของกล้ามเนื้อหรือกระดูกซี่โครง จะทำมีอาการเจ็บหน้าอกในระดับตื้นๆ มีจุดกดเจ็บที่ชัดเจน และอาการเจ็บมักสัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทางบางท่า
- กรดไหลย้อน จะทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอก จุกแน่นคอ เรอบ่อย เรอเหม็นเปรี้ยว โดยอาการมักเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหารมันๆหรือรับประทานอาหารอิ่มใหม่ และจะเป็นมากในตอนนอนมากกว่าตอนนั่งหรือยืน
- กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จะทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกในลักษณะเจ็บแน่นเหมือนมีอะไรมากดมาเหยียบ อาจเจ็บเสียวร้าวไปที่ไหล่ซ้ายหรือคอด้านซ้ายได้
- ปอดอักเสบ จะทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกโดยที่สัมพันธ์กับการหายใจเช้าลึกๆ ร่วมกับมีอาการไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย มีไข้
- โรคแพนิค สาเหตุเกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติที่ทำงานไวเกินไปทำให้เกิดอาการทางกายขึ้นมาอย่างฉับพลัน เช่น เจ็บหน้าอก ใจสั่น เหงื่อออก หายใจไม่สะดวก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และมักทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวว่าจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

อาการเจ็บหน้าอก สามารถเป็นได้หลายอย่างครับ
เช่น
- โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ จะเจ็บหน้าอกแปล๊บๆ จี๊ดๆเหมือนของมีคมแทง เป็นมากขึ้นเมื่อหายใจเข้าออก และนอนราบ จะดีขึ้นเมื่อนั่งเอนตัวมาข้างหน้า
-โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน มักจะเจ็บแน่นๆหน้าอก เหมือนถูกบีบรัด บางครั้งมีเหงื่อแตกใจสั่น ร้าวไปกรามหรือไหล่
- โรคกรดไหลย้อน อาจจะมีเรอเปรี้ยว จุกแน่นลิ้นปี่ ร่วมด้วย
- โรคกล้ามเนื้อหรือกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกอักเสบ จากอุบัติเหตุ/ออกกำลังกาย หรือทำงานหนักๆ มักจะเจ็บตอนขยับตัว หรือกดบริเวณดังกล่าว ดังนั้นเวลาหายใจเข้าออก มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อทรวงอก ทำให้เจ็บมากขึ้น เป็นต้นครับ

ส่วนเรื่องเวียนศีรษะต้องแยกจากมึนศีรษะก่อน โดยเวียนศีรษะจะรู้สึกเหมือน สิ่งแวดล้อม/บ้านหมุน หรืออาจรู้สึกเหมือนตัวเองหมุน/โยก/โคลงเคลง เหมือนอยู่บนเรือ ส่วนมึนศีรษะจะมีความรู้สึกเหมือนงงๆ มึนๆทั่วหัว หรือหัวเบาๆ มีตาลาย ตาพร่า ขณะเปลี่ยนอิริยาบถจะมีอาการมากขึ้น

อาการเวียนศีรษะ ส่วนใหญ่จะเกิดจาก2สาเหตุ คือเวียนศีรษะจากระบบประสาทส่วนปลาย ซึ่งพบได้บ่อย เช่น โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน น้ำในหูไม่เท่ากัน อาการหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน โดยส่วนใหญ่มักจะเวียนศีรษะรุนแรง และมักมีคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
ส่วนอีกแบบ คือเวียนศีรษะจากระบบประสาทส่วนกลาง เช่น หลอดเลือดในสมองขาดเลือด ก้อนเนื้องอกในสมอง สมองอักเสบ โพรงสมองคั่งน้ำ กลุ่มนี้มักเวียนศีรษะไม่รุนแรง คลื่นไส้อาเจียนไม่มากได้ มักมีอาการเสียการทรงตัว และเห็นภาพซ้อน พูดไม่ชัด ฯลฯ

แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อซักประวัติ ตรวจร่างกายครับ ถ้าไม่พบอะไรเลย อาจจะเป็นโรคแพนิค หรือตื่นตระหนกโดยไม่มีสาเหตุได้ครับ