October 24, 2018 14:37
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
หากสงสัยเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้า สามารถเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
5. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
6. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
7. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
8. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
9. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
10. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำให้พบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
ในกรณีนี้หนูสามารถปพบจิตแพทย์ได้ด้วยตัวเองค่ะ ไม่จำเป็นต้องมีผู้ปกครองไปด้วยก็ได้ เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในการบำบัดรักษา จิตแพทย์อาจจะนัดมาพบในครั้งต่อไป แต่หากหนูมีข้อจำกัดเรื่องผู้ปกครองก็ไม่เป็นไรค่ะ สามารถแจ้งคุณหมอได้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีอารมณ์เศร้านั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกๆคนครับ แต่อารมณ์เศร้าที่เป็นปกตินั้นจะต้องไม่เกิดขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
เมื่ออารมณ์เศร้าเป็นมากจนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้านั้นมักจะทำให้มีอารมณ์เศร้าหรือมีความรู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ร่วมกับมีอาการอื่นๆ ได้แก่
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อก็จะทำให้สงสัยว่าอาจเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองได้โดยการทำแบบทดสอบ 9Q ตามลิงค์นี้ครับ
https://www.dmh.go.th/test/download/files/2Q%209Q%208Q%20(1).pdf
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
เมื่อสงสัยว่าตนเองอาจเป็นโรคซึมเศร้าได้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมให้แน่ชัดครับ เพื่อที่จะได้ให้การรักษาและช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม
การไปพบจิตแพทย์นั้นสามารถไปพบด้วยตัวคนเดียวได้ครับ อาการและการรักษาต่างๆที่เกิดขึ้นจะถูกเก็บเป็นความลับระหว่างตัวคุณกับจิตแพทย์เท่านั้นตราบใดที่อาการที่เกิดขึ้นไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณ ถ้าหากคุณไม่ต้องการให้คุณพ่อคุณแม่ทราบเรื่องของคุณ คุณก็สามารถแจ้งความประสงค์กับจิตแพทย์ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ขอเพิ่มเติมในส่วนของการรับบริการนะครับ ในขณะนี้ที่น้องยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เบื้องต้นอยากให้ลองดูว่ามีบริการให้คำปรึกษาสำหรับนิสิต นักศึกษาที่บริการโดยมหาวิทยาลัยหรือไม่นะครับ เพราะเท่าที่ทราบมา บางมหาวิทยาลัยจะมีให้บริการพูดคุยกับนักจิตวิทยาได้ครับ
ในส่วนของการดูแลตนเองนอกจากเรื่องการเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ก็อยากให้น้องลองเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันที่ทำเช่น การเพิ่มเติมกิจกรรมเช่นการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมอื่นๆที่สามารถทำให้น้องสนุกไปกับมันได้นะครับ หาเวลาให้ตนเองได้ทานอาหารที่ชอบและครบมื้อ การนอนเข้าใจว่าตอนนี้นอนหลับยากนะครับ ก่อนนอนอาจจะลองทานน้ำอุ่น นมอุ่นและใช้ตัวช่วยในการนอนเพื่อให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นนะครับ
สุดท้ายนี้อยากแนะนำว่าให้ลองขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญนะครับ การได้พูดคุยถึงเรื่องเหล่านี้ออกมาจะช่วยบรรเทาความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างในและจะทำให้น้องได้มีผู้ช่วยในการจัดการกับความรู้สึกและรับมือการสถานการณ์ต่างๆในชีวิตได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อยครับ หากมีความคิดฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเองเยอะขึ้นอยากลองแนะนำให้ติดต่อกับสายด่วนสุขภาพจิตหรือสมาคมสะมาริตันส์ซึ่งเป็น 2 จุดที่ให้บริการการปรึกษาผ่านโทรศัพท์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปให้ได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะคุณหมอหนูคิดว่าตัวเองเป็นซึมเศร้าค่ะคิดว่ามานานแล้วแต่ไม่แน่ใจเลยว่าเป็นจริงมั้ยหรือคิดไปเองอ่ะ เคยไปตวรจที่คลินิกเขาว่าเป็นโรคเครียดค่ะแต่หนูรู้สึกว่าตัวเองมีมากกว่านั้น หนูไม่ชอบบ้านที่บ้านมีปัญหาบ่อยตั้งแต่เด็กจนโตค่ะ ภาพทะเลาะวิวาทมีมาให้ดูตลอดแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีก็ยังรู้สึกไม่อยากกลับบ้านเลยค่ะ แล้วก็รู้สึกมีอคติกับคนในบ้านค่ะ สองเรื่องเพื่อนค่ะหนูเริ่มมาปัญหาเพื่อนช่วงม.ต้นค่ะเป็นความน้อยใจจนเป็นเรื่องใหญ่โตในห้องรู้สึกและแย่มาก เรื่องที่รู้สึกเหมือนโดนเพื่อนบูลลี่ตอนม.ปลายค่ะแต่คิดว่าน่าจะเพราะการกระทำตนเอง แต่ก็เครียดมากจนไม่ไปเรียนไม่ไปเจอหน้าเพื่อนไม่ได้เลยค่ะประมาณอาทิตย์นึง รู้สึกเข้ากับใครไม่ค่อยได้ รู้สึกเหนื่อยและท้อมากๆเวลากดดันเวลาไม่มีไรสมหวัง ร้องไห้ง่ายมากค่ะ เคยคิดฆ่าตัวตายบ่อย เคยทำร้ายตัวเองโดยไม่มีใครรู้ รู้สึกไม่มีค่า น้อยใจเวลาเพื่อนไม่อยู่ด้วย นอนไม่ค่อยหลับค่ะนอนหลับยากมาก รู้สกเก็บกดแต่เด็กแล้วค่ะ มีอีกหลายเรื่องทั้งความรักที่ไม่สมหวังสักครั้ง ทั้งเรื่องเรียนที่เราผิดหวังกับเกรดค่ะ หนูควรไปพบจิตแพทย์มั้ยคะ หนูไม่กล้าไปเพราะกลัวเขาให้เอาผู้ปกครองไปด้วย หนูอึดอัดถ้าจะมีคนในครอบครัวมาฟังค่ะ ตอนนี้หนูเข้ามหาลัยปีสองแล้วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)