ถ้าผิวที่มีอาการคันบ่อยๆ เป็นเยอะช่วงหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ พอเกาแล้วจะมีผื่นแดงยาวขึ้น แล้วจะหนาๆหน่อย จะเป็นอาการแพ้ที่เพิ่มจากเดิมได้ด้วยหรอคะ!? (ปกติหลีกเลี่ยงอาหารกับสถานที่ที่ทำให้เกิดการแพ้อยู่แล้วค่ะ)

อาจเป็นผื่นลมพิษ โดยทั่วไปแล้วผื่นมักจะหายไปได้เองภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆแต่ในบางรายอาจเป็นเรื้อรังแบบเป็น ๆ หาย ๆ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นภูมิแพ้มาก่อน สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการได้นั้นอาจไม่ใช่แค่อาหารหรือสถานที่ แต่อาจเป็นสารเคมี เครื่องสำอางต่างๆ อุณหภูมิร้อน-เย็น น้ำ รวมทั้งความเครียด ความวิตกกังวล ในบางรายสาเหตุของลมพิษอาจเกิดจากโรคติดเชื้อบางชนิด เช่น ทอนซิลอักเสบ, ฟันผุ, หูอักเสบ, หูน้ำหนวก, ไซนัสอักเสบ, ไตอักเสบ, ท้องเดิน, โรคเชื้อรา, เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, โรคพยาธิ ฯลฯ หากมีอาการหลังอาบน้ำเสร็จให้ลองสังเกตดูว่ามันเกิดจากอุณหภูมิขิงน้ำหรือไม่ หรือ จากครีมอาบน้ำ หรือจากผ้าเช็ดตัวรวมทั้งน้ำยาทำความสะอาดผ้าเช็ดตัวด้วย เมื่อหาสาเหตุเจอก็ควรหลีกเลี่ยงค่ะ

อาการคันหลังอาบน้ำ อาจบ่งชี้โรคเลือดบางอย่างมีอาการคันหลังอาบน้ำ เกิดจากโรคเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ เรียกว่า polycythemia vera พบได้ประมาณ 60% ของผู้ที่เป็นโรคนี้และมักจะดีขึ้นหลังจากการรักษาโรคนี้

โรค polycythemia vera เป็นโรคที่มีการแบ่งตัวผิดปกติของเม็ดเลือดแดง พบได้ไม่บ่อยมากนะครับ ส่วนใหญ่พบมากในผู้สูงอายุ เซลต้นกำเนิดเม็ดเลือดแดงในไขกระดูกมีการแบ่งตัวที่ผิดปกติ ผลิตเม็ดเลือดแดงออกมามากกว่าชนิดอื่น ความเข้มข้นของเลือดปกติจาก 40% ก็พุ่งขึ้นไปที่ 50% แต่การที่มีเม็ดเลือดแดงมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะกลายเป็นซูเปอร์แมน นำออกซิเจนไปใช้ได้อย่างเยี่ยมยอด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เลือดจะหนืดมากขึ้น เพราะเซลมันมากขึ้น เปรียบเหมือนน้ำเชื่อม เม็ดเลือดแดงคือน้ำตาล ยิ่งมีมากก็ข้นมาก เคลื่อนที่ยาก หนืดและอุดตันแถมยังทำให้สารที่ทำให้เลือดแข็งตัวกระตุ้นมากขึ้น เกิดลิ่มเลือดได้ง่ายขึ้น
อาการต่างๆก็มักจะเกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดที่ตำแหน่งต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการทางระบบประสาทจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงนั้นอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มือเท้ามีการอุดตันของเลือดและปวดแสบปวดร้อนบริเวณนั้น สีจะออกคล้ำๆแดงๆกว่าจุดที่ไม่ตัน (ต่างจากการอุดตันทั่วไป ที่มักจะขาดความรู้สึกและเย็น ซีด ก่อน) บางคนไปอุดตันที่หลอดเลือดที่ลำไส้จนมีอาการปวดท้องรุนแรงมากได้ และอาการแสดงที่มักพบเสมอคือ ม้ามโต การตรวจเลือดจะพบเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล เซลอื่นก็เพิ่มแต่ไม่มากเท่าเม็ดเลือดแดงครับ มีการตรวจทางพันธุกรรมหลายๆอย่างก็ช่วยบ่งชี้ค่ะ

ส่วนมากผู้ป่วยจะแย่ลงจากหลอดเลือดอุดตันมากกว่า ถ้าอยู่ได้นานพอก็จะพบโอกาสเกิดมะเร็งเม็ดเลือดมากขึ้น
การรักษานั้นดูง่ายและตรงไปตรงมามากคือเป็นการรักษาที่ทำมาตั้งแต่อดีต คือ การเจาะเลือดออก คล้ายๆการบริจาคเลือดนั่นเองเพียงแต่เลือดที่บริจาคนั้นเอาไปใช้ไม่ได้นะ นอกจากเอาเม็ดเลือดแดงออกแล้วยังเอาเม็ดเลือดอื่นๆที่ผิดปกติออกมาได้ด้วย เรามักจะเอาเลือดออกเพื่อรักษาระดับเม็ดเลือดแดงที่ประมาณ 45%ค่ะ
และมีการให้ยาเพื่อกดการสร้างเม็ดเลือดในไขกระดูกร่วมด้วย เพื่อไม่ให้เซลเม็ดเลือดมีมากเกินไปจนเกิดปัญหา เช่น ยา hydroxyurea ,ยา peglylated interferon และอาจทำให้ม้ามลดขนาดลง ลดการปวดท้องหรือกดเบียดอวัยวะอื่นๆได้

ส่วนอาการคันเราเชื่อว่า เกิดจากสารฮิสตามีนค่ะ แต่ก็ไม่ได้เกิดจากฮิสตามีนทั้งหมด การให้ยาต้านฮิสตามีน หรือยาแก้แพ้ทั้งหลาย ก็จะลดอาการคันได้
เพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องแนะนำให้ไปตรวจความเข้มข้นเลือดใกล้บ้านได้ เพื่อแยกภาวะอันตรายออกค่ะ

ลองไปเจาะเลือดตรวจดูนะคะ ถ้าความเข้มข้นผิดปกติ หรือมีค่าเม็ดเลือกแสดงการแพ้ได้หากมีอาการแพ้ค่ะ

ได้ไปเจาะความเข้มข้นเลือดมาหรือยังคะ ถ้าความเข้มข้นปกติ อาจเกิดจากผื่นแพ้หรือผิวแห้งมากหบังการิาบน้ำ ซึ่งไม่เป็นโรคร้ายแรงรักษาตามอาการ เช่นรับประทานยา ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น หรือหากเป็นตุ่มน้ำใสอาจจะทาsteroidเฉพาะที่ลดอาการอักเสบแพ้ผิวหนังค่ะ แต่หากความเข้มข้นเลือดสูง ต้องเจาะเลือดระบายออกค่ะ