หน้าหนาวนี้ กินอย่างไรให้ร่างกายอบอุ่น และมีสุขภาพดี

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที

แม้ประเทศไทยจะอยู่ในเขตร้อน แต่เมื่อความหนาวมาเยือน อุณหภูมิในหลายพื้นที่ก็ลดตัวลงอย่างรวดเร็วจนร่างกายของหลายๆคนตั้งตัวไม่ทัน หน้าหนาวปีนี้ทุกคนควรเตรียมความพร้อมในการทำร่างกายให้อบอุ่น ทั้งจากภายในและภายนอกเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยที่ทำลายสุขภาพ

7 อาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มความอบอุ่นจากภายใน

ในบริเวณที่มีอากาศเย็นมาก การใส่เสื้อผ้าที่หนาๆนั้นอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่นเสมอไป เพราะร่างกายคนเราไม่ได้รู้สึกหนาวเพียงเพราะอากาศที่เย็น แต่การที่เลือดในร่างกายมีความเป็นกรดสูงขึ้นก็สามารถทำให้เรารู้สึกหนาวได้เช่นกัน ซึ่ง Thai Love Health มีเคล็ดลับการรับประทานอาหารที่ช่วยปรับความเป็นกรดนี้ให้สมดุล และเพิ่มอุณภูมิภายในร่างกายมาฝากเพื่อเตรียมรับมือกับลมหนาวปีนี้ไปพร้อมๆกัน

1. เครื่องเทศ

อาหารไทยนั้นขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดร้อน เพราะมักมีส่วนประกอบของพริกสด พริกไท ขิง กระเทียม และอบเชย ซึ่งเครื่องเทศเหล่านี้สามารถเพิ่มความอบอุ่นภายในร่างกายได้ดีมาก อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ อย่างเช่น ขิงทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร ส่วนกระเทียมสามารถป้องกันไข้หวัด

2. เนื้อสัตว์

การรับประทานเนื้อสัตว์โดยเฉพาะประเภทเนื้อแดง ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้เนื่องจากมีปริมาณธาตุเหล็กสูง ซึ่งกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ที่ช่วยปรับอุณภูมิร่างกายให้สูงขึ้นได้อย่างดีเยี่ยม

3. น้ำซุปและเครื่องดื่มร้อนๆ

การซดน้ำซุปร้อนๆหรือจิบน้ำชาอุ่นๆในช่วงที่อากาศเย็นลงทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นได้ทันที เพราะความร้อนจากอาหารและเครื่องดื่มช่วยปรับอุณภูมิภายในร่างกายได้โดยตรง โดยเฉพาะการดื่มนมอุ่นๆก่อนนอนจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นและทำให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะนอนหลับ

[caption id="" align="aligncenter" width="399"]20111213225423.jpg ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ[/caption]

4. ธัญพืช

ร่างกายเรารู้สึกอุ่นขึ้นได้จากการรับประทานคาร์โบไฮเดรต(อาหารกลุ่มแป้ง)ที่มีประโยชน์ ซึ่งพบในธัญพืชชนิดต่างๆ เช่น ข้าวกล้องและโอ้ตมีล เพราะให้พลังงานที่จำเป็นมากต่อระบบเผาผลาญ นอกจากจะเพิ่มความอบอุ่นแล้ว คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย

5. ถั่วชนิดต่างๆ

ถั่วจำพวกถั่วลิสง แอลมอนด์ และเม็ดมะม่วงหิมพาน มีสรรพคุณทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้อย่างรวดเร็วแม้รับประทานในปริมาณเล็กน้อย การทานทั่วควบคู่ไปกับผลไม้อบแห้งจะช่วยเพิ่มสารอาหารและความสดชื่นให้กับร่างกายได้อย่างดี

6. น้ำผึ้ง

น้ำผึ้งทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้นจนกลายเป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงหน้าร้อน แต่นั่นทำให้มันเป็นหนึ่งในอาหารที่ใช้เพิ่มความอบอุ่นได้ดีมากในช่วงหน้าหนาว ลองใส่น้ำผึ้งลงไปในชาหรือกาแฟร้อนๆแล้วจิบในช่วงที่อากาศเย็นตัวลงจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาก ส่วนความหวานของน้ำผึ้งนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลเลยเพราะเป็นความหวานที่ได้จากธรรมชาติและมีการย่อยสลายง่าย อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

7. น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวนั้นมีสรรพคุณที่ดีมากมายรวมไปถึงการทำให้ร่างกายอบอุ่นเพราะอุดมไปด้วยไขมันที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ร่างกายรู้สึกอุ่นขึ้นได้

การอบอุ่นร่างกายในช่วงฤดูหนาวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆจากการใส่เสื้อผ้าที่หนา และเลือกรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณในการปรับอุณหภูมิภายในร่างกายให้เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
How to stay well in winter. NHS (National Health Service). (https://www.nhs.uk/live-well/healthy-body/keep-warm-keep-well/)
Ways to Warm Up if You’re Always Cold. WebMD. (https://www.webmd.com/a-to-z-guides/ss/slideshow-tips-always-cold)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป