สวัสดีค่ะ ขอปรึกษาคุณหมอปกติหนูมีรอบเดือนมาไม่ค่อยปกติอยู่แล้วค่ะ แต่เดือนนี้เลื่อนมาจากเดือนที่แล้วเป็นปจด.วันแรกคือวันที่ 11 เดือนนี้ 26 แล้วยังไม่มาเลยค่ะ นับจากปจด.หมดเดือนที่แล้วหนูมีพสพ.กับแฟน 3 ครั้งค่ะ แต่ใส่ถุงป้องกันทุกครั้งนะคะ แล้วก็ตอนที่หมดประจำเดือนแล้วหนูได้กินยาฮอร์โมนตัวนึงค่ะ ไม่ใช่ยาคุมกำเนิด แต่เขาบอกว่าช่วยรักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติได้ กินได้เดือนนึงค่ะ หยุดกินประมานวันที่ 10 ก.คค่ะ หนูอยากถามว่าหนูมีโอกาสท้องไหมคะ หรือว่าที่ปจด.ไม่มาเปนผลมาจากยาฮอร์โมนที่กินค่ะ ขอบคุนค่ะ

"ฮอร์โมนปรับประจำเดือน" ที่ใช้ มีชื่อว่าอะไรคะ และรับประทานอย่างไร

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวไม่ใช่ "ฮอร์โมนปรับประจำเดือน" ค่ะ หากมีการระบุสรรพคุณว่าสามารถลดอาการปวดท้องและปรับประจำเดือนให้ปกติได้ จะถือเป็นการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติอาหาร มีโทษจำ และ/หรือ ปรับ ซึ่งสามารถแจ้งสายด่วน อย.1556 ให้ตรวจสอบได้นะคะ

พืชหรือสมุนไพรบางอย่าง อาจมีสารไฟโตเอสโตรเจน หรือสารคล้ายฮอร์โมนเพศหญิง เมื่อรับประทานจึงให้ผลคล้ายกับการได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน(ในปริมาณต่ำ) แต่เมื่อพิจารณาส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ไม่น่าจะมีสารไฟโตเอสโตรเจนมากพอที่จะเห็นผลใด ๆ ได้ค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนมาหลังหยุดใช้ น่าจะเป็นความบังเอิญเท่านั้น
..
..
..
ส่วนสาเหตุที่ประจำเดือนยังไม่มาในตอนนี้ อาจเป็นไปได้ว่า
1. ยังไม่ถึงรอบที่ประจำเดือนจะมา
2. มีการตั้งครรภ์
3. ประจำเดือนคลาดเคลื่อนจากสาเหตุอื่น ๆ

ซึ่งแนะนำดังนี้นะคะ

1. ถ้าเลือดที่ออกมาในช่วงวันที่ 11 กรกฎาคม เป็นประจำเดือนจริง ๆ หากคิดตามรอบประจำเดือนประมาณ 28 วัน ประจำเดือนในรอบถัดไปก็ควรจะมาใกล้เคียงกับวันเดิมค่ะ ดังนั้น การที่จะไม่มีประจำเดือนในช่วงนี้ก็ไม่ถือว่าผิดปกตินะคะ

จึงควรรอดูไปก่อนค่ะว่าประมาณวันที่ 9 - 11 ของเดือนหน้า จะมีประจำเดือนมาหรือไม่

2. ถ้าประมาณวันที่ 9 - 11 สิงหาคม ยังไม่มีประจำเดือนมา ให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนนะคะ (หรือตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน) เพื่อดูว่ามีการตั้งครรภ์หรือเปล่า

แม้ว่าหากใช้ถุงยางถูกต้องและไม่มีการรั่วซึม จะมีโอกาสน้อยมากที่จะตั้งครรภ์ แต่เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น หากประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติ ก็ควรตรวจสอบให้ชัดเจนไปเลยค่ะ

3. ถ้าตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็เป็นไปได้ที่ประจำเดือนจะคลาดเคลื่อนจากสาเหตุอื่นที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเนื่องจากผู้ถามให้ประวัติว่ามีปัญหาประจำเดือนไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม หาสาเหตุที่แท้จริงของความผิดปกตินี้ และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

ถ้าเช่นนั้น ก็ข้ามคำแนะนำข้อที่ 1 ไปเลยค่ะ เพราะถือว่าประจำเดือนมาช้ากว่ารอบปกติมากแล้ว

นั่นคือให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ เพื่อดูว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่

หากผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด คือไม่มีการตั้งครรภ์ ก็น่าจะเป็นปัญหาประจำเดือนคลาดเคลื่อนตามเดิมที่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะว่าสาเหตุที่แท้จริงของความผิดปกตินี้เกิดจากอะไร จะได้รักษาตามความเหมาะสมนะคะ

น้อยค่ะ ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% แต่ก็ควรตรวจเพื่อความชัดเจนค่ะ