มีอาการเหมือนวูบบ่อยๆ เวลานั้งยองๆแล้วลุกขึ้น ก็วูบไปแปปนึง เป็นบ่อยมาสัก3วันแล้วคะ แล้วหนูมีโรคประจำตัว หอบ พวกโรคซึมเศร้า+ความเครียด คิดอะไรต่ออะไร จนบางทีกินข้าวไม่ค่อยได้มากบางที่ก็ไม่กินเลย รุ้สึกเบื่ออะไรไปหมด จนดูโทรมผอมจนคนรอบข้างถามว่าติดยารึป่าวผอมมาก แล้วก็นอนไม่หลับคะ แบบนี้ต้องทำยังไงคะ อาการแบบนี้คิอาการอะไรคะ

อาการวูบ หน้ามืดในกรณีนี้ อาจเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอและจากภาวะร่างกายอ่อนแอ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะซึมเศร้าและความเครียดก็เป็นไปได้นะคะ

อาการของซึมเศร้า จะมีอาการดังนี้
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.นอนไม่หลับ /หลับมากเกินปกติ
4.อ่อนเพลีย
5.เบื่ออาหาร
6.ขาดสมาธิ
7.กระสับกระส่าย
8.รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย มีความคิดทำร้ายตัวเอง

หากมีอาการเกิน 7 ข้อ ต่อเนื่องทุกวัน ตลอด 2 สัปดาห์ขึ้นไป ควรพบจิตแพทย์ รับการตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาตามแนวทาง ซึ่งการรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดีคือการรักษาด้วยยาร่วมกับการทำจิตบำบัดค่ะ

ในกรณีที่รับการรักษาอยู่แล้ว หากอาการไม่ดีขึ้น สามารถไปพบแพทย์ก่อนนัด เพื่อปรับยา และส่งปรึกษาแพทย์ฝ่ายกายรักษาร่วมกันนะคะ

สวัสดีครับ
สาเหตุของอาการมึนศรีษะหรือ หน้ามืดหรือเวียนหัวเวลาลุกนั่ง หรือลุกจากที่นอนนั้นส่วนใหญ่ เกิดจากการที่ร่างกายของเราเวลาเปลี่ยนท่าทางจากการนอนหรือนั่ง เป็นลุกขึ้นยืนจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต โดยเมื่อเราลุกขึ้นยืนทันทีร่างกายจะมีความดันที่ต่ำลงเนื่องจาก เลือดจะตกตามแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้เลือด ไหลกลับหัวใจได้น้อยลง และทำให้ความดันต่ำลงครับ ทำให้มีอาการมึนศรีษะหรือหน้ามืดได้
แต่โดนคนปกติทั่วไปเมื่อเรายืนขึ้น ร่างกายจะตอบสนองโดยการกระตุ้นผ่านระบบประสาท ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น แรงขึ้นเพื่อให้ มีการไหลเวียนของโลหิตมากขึ้นทำให้ความดันไม่ต่ำลง ครับ จึงไม่เกิดอาการหน้ามืดเวียนศรีษะเวลาเราลุกขึ้นยืน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติของกลไกนี้ได้คือ
1.จุดรับรู้ความดันโลหิตของร่างกาย หรือ Baroreceptor เสียไปทำให้การกระตุ้นระบบประสาทเวลาความดันตกลงเสียไป
2.มีการเต้นที่ผิดปกติของหัวใจ หรือหัวใจมีความผิดปกติ
3.ร่างกายมีภาวะขาดน้ำ หรือน้ำตาลต่ำเช่นท้องเสีย อดอาหารเป็นต้น
4.การพักผ่อนไม่เพียงพอครับ
ส่วนหากไม่เกี่ยวกับเรื่องกลไกการลดเพิ่มของความดันที่ได้กล่าวไปข้างต้น แต่มีลักษณะอาการมึนศรีษะเวลาขยับศรีษะหรือลุกขึ้นยืนแล้วมีบ้านหมุน เวียนศรีษะ เดินเซ อาจจะต้องระวังเรื่องเกี่ยวกับการทรงตัวของร่างกาย โรคที่พบได้บ่อยๆ คือโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีการอักเสบของหูชั้นใน มีความผิดปกติของสมองน้อยเป็นต้นครับ
การวินิจฉัยทั้งสองภาวะควรไปพบแพทย์เพื่อได้รับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจผลเลือดเพื่อหาเสตุทำให้เกิดอาการได้ชัดเจนมากที่สุดครับ