มีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยสวมถุงยาง แต่ระหว่างมีไปสักแปป แฟนถอดถุงยางออกแล้วใส่ใหม่ (จากด้านในกลับเป็นด้านนอก) อยากทราบว่ามีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยคะ แล้วควรกินยาคุมฉุกเฉินมั้ยคะ แล้ววิธีกินกินอย่างไรคะ จะมีผลข้างเคียงอันตรายมั้ยคะ ?

เหตุการณ์ที่กล่าวมาเป็นไปได้ยากที่จะเกิดขึ้นจริงนะคะ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ใช้ถุงยางไม่ถูกวิธี ก็มีความเสี่ยงที่ไม่ได้รับผลป้องกันจากถุงยางที่ใช้ค่ะ จึงควรคุมกำเนิดฉุกเฉินโดยเร็วเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง ซึ่งมี 2 ทางเลือก ได้แก่ 1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่วิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่สูงนักนะคะ แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน หากจะมีเพศสัมพันธ์อีก ก็จะต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง 2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% เท่านั้น และมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ .. .. .. ในกรณีที่ผู้ถามเลือกคุมกำเนิดฉุกเฉินด้วยการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ควรรับประทานให้เร็วที่สุดที่ทำได้ค่ะ โดยการใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ที่ 72 - 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ และสามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้เลย นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว แต่ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, เจ็บคัดตึงเต้านม, ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ไม่มีอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรค่ะ อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก โดยประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ