October 25, 2018 23:36
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการข้างต้นนั้นหมอคิดว่ามีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ค่อนข้างมากครับ เนื่องจากอารมณ์เศร้าดังกล่าวเป็นมานานถึง 7 เดือน มีผลทำให้มีอาการอ่อนเพลีย มีปัญหาเกี่ยวกับความคิด สมาธิ จนเริ่มส่งผลต่อการเรียนแล้ว
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิดความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการดังกล่าวส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือหการทำงาน ก็จะทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเอง โดยการทำแบบทดสอบ 9Q ตามลิงค์นี้ดูก่อนได้ครับ
https://www.dmh.go.th/test/download/files/2Q%209Q%208Q%20(1).pdf
ถ้าหากทำแล้วได้คะแนนตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยโรคซึมเศร้าจะต้องอาศัยการพูดคุยกับทางจิตแพทย์โดยตรงจึงจะยืนยันการวินิจฉัยที่แน่นอนได้ครับ หมอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมดูก่อนครับ เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม
โรคซึมเศร้านั้นสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นจนกระทั่งหายดีได้ครับ หมอขอเป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เบื้องต้นทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็อาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้าได้ค่ะ
ในกรณีนี้แนะนำพบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการอื่นๆเพิ่มเติม รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการดีขึ้น ซึ่งวิธีการรักษาอาจจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกับการทำจิตบำบัดเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทำให้เราปรับความคิด อารมร์ ปรับตัวใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ มีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในตอนนี้ตัวน้องเองกำลังเศร้าและผิดหวังกับตนเองที่ล้มเหลวและรู้สึกว่าคนที่รักก็จากไปอีกใช่ไหมครับ อาการเศร้าต่างๆที่เล่ามานี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อตัวเราแบกรับปัญหาหรือความผิดหวังหลายๆอย่างเข้ามาพร้อมกันนะครับ ในตอนนี้สิ่งที่อยากให้ทำคือการฝืนไปเข้าเรียนและร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียนนะครับถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายก็ตาม แต่การที่เรายังฝืนออกไปข้างนอกหรือทำอะไรเหล่านี้อยู่ก็จะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราต่อสู้กับอาการเศร้าและไม่มีความสุขเหล่านี้ได้ครับ
ในเรื่องของการพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ผมเองก็อยากแนะนำให้ลองเข้าพบดูนะครับเนื่องจากคุณติดอยู่กับความรู้สึกเหล่านี้มาแล้ว 7 เดือนซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่มากพอสมควรที่จะบอกได้ว่าวิธีการรับมือวามเครียดแบบเดิมของคุณอาจจะยังใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ดังนั้นการได้รับยาหรือคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญตรงนี้ จะเป็นส่วนที่ช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความเครียดและจัดการกับอารมณ์ได้ดีขึ้นนะครับ
ในเบื้องต้นสิ่งที่สามารถทำได้ก่อนการเข้าพบแพทย์คือการลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมครับ โฟกัสกับปัจจุบัน หากิจกรรมที่ยังรู้สึกว่าสนุกหรือมีความสุขที่ได้ทำ แล้วก็หมั่นทำกิจกรรมเหล่านั้นอย่างพอเหมาะ เริ่มออกกำลังกาย เปลี่ยนวิธีการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนหรือแม้กระทั่งลองทานอาหารที่ตนเองชอบหรือสนใจบ่อยๆ สิ่งเหล่านี้จะพอช่วยบรรเทาอาการเศร้าเหล่านี้ลงได้บ้างครับ การระบายความรู้สึกกับคนที่ไว้ใจก็สามารถทำได้นะครับเพื่อไม่ให้ตัวคุณเก็บกดอารมณ์ไว้จนเกินไป หากกำลังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยก็ลองดูบริการการให้คำปรึกษากับนักศึกษาดูได้นะครับ เพราะในบางมหาวิทยาลัยก็มีบริการให้คำปรึกษากับนิสิต นักศึกษาอยู่บ้างครับ ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
วันนี้ผมร้องไห้ที่โรงเรียนด้วยครับคือแบบมันเหมือนอยู่ดีๆหัวมันก็คิดแต่เรื่องไม่ดีอะครับ แบบนี้ถือว่าผิดปกติมั้ยครับ. ขอบคุณครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โดยปกติอารมณ์เศร้าของคนเราจะเกิดขึ้นตามปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระตุ้นครับ เช่น มีความผิดหวังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ สอบตก อกหัก สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
แต่ถ้าหากอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นมานั้นเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้มีเหตุผลที่ชัดเจน อยู่ๆก็อยากร้องไห้ออกมาเอง ก็จะทำให้สงสัยว่าอาจเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในกรณีที่เป็นโรคซึมเศร้าจริง สาเหตุของอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุนั้นจะเป็นผลมาจากการทำงานที่ผิดปกติของสารเคมีในสมองที่มาสั่งการให้เกิดอารมณ์เศร้าที่ผิดปกติโดยตรงครับ ซึ่งในกรณีนี้ก็จะมีความจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อช่วยปรับการทำงานของสารเคมีในสมองใหม่ จึงจะช่วยให้อารมณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติได้ครับ
ในกรณีนี้ถ้าหากการร้องไห้ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ก็เกิดขึ้นมาเองโดยไม่มีอะไรมากระตุ้นจริง ประกอบกับอาการหลายๆอย่างที่คุณเล่ามาในตอนแรก หมอก็อยากให้คุณได้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และช่วยให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สวัสดีอีกรอบครับพี่หมอ คือผมอยากพบจิตแพทย์ครับแต่ผมไม่อยากให้พ่อแม่รู้ผมต้องทำยังไงครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในการเข้าพบจิตแพทย์นั้นไม่จำเป็นต้องพาผู้ปกครองไปด้วยครับ ถ้าไม่ต้องการให้ผู้ปกครองรู้ก็สามารถไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองได้เลยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แต่อายุผมยังไม่ถึง18ปีนะครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อายุไม่ถึง 18 ปีก็สามารถไปพบแพทย์เองได้ครับ ไม่มีปัญหา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีครับ ผมทำร้ายตัวเองเพื่อระบายความเครียดแล้วผมควรทำยังไงดีครับ
สวัสดีครับคุณหมอคือช่วงนี้ผมไม่มีความสุขกับชีวิตเลยครับผมรู้สึกว่าผมผิดหวังไปทุกเรื่องผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำมาตลอดมันล้มเหลวและคนที่ผมรัก เค้าก็ไปจากผม ผมไม่มีความสุขเลยครับ ทุกๆวันที่ไปโรงเรียนผมไม่รู้สึกมีแรงเลยครับคือผมรู้สึกว่าผมอ่อนเพลียมากและรู้สึกช้าด้วยครับและตอนเรียนผมชอบเศร้าโดยไม่มีสาเหตุและตอนกลางวันผมจะชอบแอบมาร้องไห้อะครับและกิจกรรมที่โรงเรียนผมเบื่อมากเลยครับทั้งๆที่เมื่อก่อนผมไม่เคยเป็นแบบนี้และช่วงนี้เวลาผมทำการบ้านผมจะคิดไม่ออกเลยครับคือเหมือนกับว่าสมองมันตันและช่วงมืดตอนนอนผมจะเครียดมากเลยครับคือเหมือนว่าสิ่งที่ผมทำแล้วล้มเหลวมันตอกย้ำผม อาการแบบนี้ผมมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามั้ยครับ ปล.ผมเป็นอาการแบบนี้มา7เดือนแล้วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)