สวัสดีค่ะะ คือปกติหนูปจด.มาวันที่8 หนูมีอะไรกับแฟนคืนวันที่7ค่ะ แต่รุ่งเช้าวันที่8 ปจด.ยังไม่มาเลยค่ะ หนูมากินยาคุมฉุกเฉินวันที่10 ตอนเที่ยง กังวลมากๆค่ะ จะท้องไหมม???? #จะจำครั้งนี้เป้นบทเรียนค่ะ

ถ้าเดิมประจำเดือนมาสม่ำเสมอ มีเพศสัมพันธ์ช่วง ก่อน7วันถึงหลัง7วัน นับจากวันที่ประจำเดือนมาวันเเรก(กรณีคนไข้อยู่ในช่วงนี้) จะเป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องน้อยมากครับ(แทบไม่มี)

หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ไปตรวจการตั้งครรภ์นะครับ

การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ

หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับเเต่อย่างที่บอก ด้วยวันที่คนไข้มีเพศสัมพันธ์โอกาสท้องก็น้อยมากๆอยู่เเล้วครับ

คิดตามประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน ผู้ถามจะมีโอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25% นะคะ

หากที่ผ่านมาผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงเวลาสม่ำเสมอ การมีเพศสัมพันธ์ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ 5 - 24% ค่ะ ซึ่งแม้จะน้อยกว่าช่วงอื่น ๆ ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% แต่ก็เสี่ยงสูงกว่าการใช้ถุงยางอนามัยนะคะ เพราะถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%

ดังนั้น ครั้งต่อไปควรใช้วิธีคุมกำเนิดมาตรฐานอย่างถุงยางอนามัยแทนการคุมกำเนิดด้วยวิธี "หน้า 7 - หลัง 7" นะคะ

อย่างไรก็ตาม หากประจำเดือนของผู้ถามมาทุก ๆ 30 - 31 วัน ประจำเดือนในรอบล่าสุดอาจมาช้ากว่าวันที่ 8 ประมาณ 3 วันค่ะ เนื่องจากในเดือนกุมภาพันธ์มีเพียง 28 วันนะคะ และเมื่อใช้ยาคุมฉุกเฉินในช่วงที่ใกล้จะมีประจำเดือน อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนช้าออกไปเล็กน้อย ดังนั้น แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ

แต่ถ้ารอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็อาจคลาดเคลื่อนจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุมหรือฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัยค่ะ ซึ่งในกรณีของผู้ถาม คงไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าสาเหตุใดที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเป็นกำหนดแท้จริงที่ควรมีประจำเดือนมา

แต่หลังจากที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว ผลของฮอร์โมนอาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนช้าออกไปเล็กน้อยได้ค่ะ แต่น่าจะไม่เกิน 1 สัปดาห์นับจากวันที่รับประทาน จึงแนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ

มีโอกาสตั้งครรภ์อย่างน้อย 15% ตามที่กล่าวไปข้างต้น โดยคิดจากประสิทธิภาพในการป้องกันของยาคุมฉุกเฉินค่ะ
ดังนั้น คงต้องรอดูต่อไปก่อน หรือตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสม ตามที่ได้แนะนำไปข้างต้นนะคะ