September 15, 2019 00:07
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
สาเหตุที่ทำให้มีอาการเลือดกำเดาไหลบ่อยๆนั้นเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- การมีหลอดเลือดในจมูกที่ผิดปกติ
- การมีโครงสร้างของจมูกที่ผิดปกติบางอย่าง
- จมูกแห้ง
- ริดสีดวงจมูก
- การติดเชื้อบางอย่างในโพรงจมูก
- การมีเนื้องอกหรือมะเร็งบางอย่าง
- มีการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ
- ความดันโลหิตสูง
ส่วนอาการปวดศีรษะปวดตานั้นถ้าหากไม่ได้เกิดพร้อมกับอาการมีเลือดกำเดาไหลทุกครั้งก็จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกันครับ โดยสาเหตุของอาการปวดศีรษะ ปวดตานั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นกันครับ เช่น
- การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- มีปัญหาทางเดินหายใจอุดกลั้นระหว่างนอนหลับ
- ความเครียดความกังวลที่มากเกินไป
- ไมเกรน
- ความดันโลหิตสูง
- การใช้สายตาที่มากเกินไป
- ความผิดปกติภายในสมองบางอย่าง
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรให้แฟนไปพบแพทย์หู คอ จมูกเพื่อตรวจประเมินอาการสาเหตุของอาการเลือดกำเดาไหลบ่อยๆในเบื้องต้นก่อน และถ้าหากสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกำเกาไหลไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาการปวดศีรษะอย่างชัดเจนก็ควรไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการปวดศีรษะเพิ่มเติมด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แฟนมีอาการเลือดกำเดาไหลบ่อยๆหลายวันกว่าจะหาย และชอบปวดหัว ปวดตาบ่อยๆ มันเกิดจากสาเหตุอะไรบ้างคะ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรไหม ลักษณะอาการเลือดกำเดาไหล คือเขาจะเป็นช่วงๆค่ะ หมายถึงเป็นครั้งนึงหลายๆวันแล้วถึงจะหาย ลักษณะอาการปวดหัวแบบหน่วงๆ บางครั้งก็ปวดข้างเดียว บางครั้งก็ปวด 2 ข้าง อาการปวดจะร้าวมาที่ตา จะปวดตาร่วมด้วยค่ะ ทั้งสองอาการนี้ส่วนใหญ่เขาจะไม่ได้เป็นพร้อมๆกัน แต่บางครั้งก็มีที่เกิดพร้อมกันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)