July 10, 2018 12:16
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ในกรณีที่รับประทานยาคุมกำเนิดแล้วมีอาการเลือดออกกระปิบกระปอยนั้นเป็นผลของตัวยาที่มีฮอร์โมรเพศชนิดโปรเจสเตอร์โรนค่ะ หากไม่ได้ให้นมบุตรอยู่ อาจจะลองปรับเป็นสูตรที่เป็นฮอร์โมนรวมแทนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมรายเดือนจะมี 2 ชนิดนะคะ คือชนิดฮอร์โมนรวม(สูตรปกติ) และชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว(สูตรหญิงให้นมบุตร)
หากผู้ถามใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว จะมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนได้อยู่แล้วค่ะ เพราะเป็นผลข้างเคียงเด่นของยาคุมชนิดนี้ โดยในช่วงแรก ๆ จะพบเป็นเลือดกะปริบกะปรอยและประจำเดือนไม่ปกติ แล้วค่อย ๆ ลดลง หรือห่างออกจนเป็นไม่มีประจำเดือนแทนในภายหลัง
แต่ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม อาจพบว่ามีเลือดกะปริบกะปรอยได้เช่นกันในการใช้ 1 - 3 แผงแรกค่ะ โดยเฉพาะหากใช้ยาคุมที่มีฮอร์โมนต่ำมาก หรือถ้ารับประทานยาคุมไม่ตรงเวลา
ซึ่งหากอาการไม่รุนแรง และไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด, ปวดท้องรุนแรง ก็ไม่เป็นไรค่ะ พยายามรับประทานยาคุมให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ อาการดังกล่าวก็จะหายไปเอง
แต่หากมีเลือดกะปริบกะปรอยอยู่ตลอด ทั้งที่รับประทานตรงเวลาและใช้ติดต่อกันหลายแผงแล้ว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมนะคะ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง หรือแนะนำการเลือกใช้ยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนที่เหมาะสมให้ค่ะ
..
..
..
ดังนั้น หากเริ่มใช้แผงแรก หรือ รับประทานไม่ตรงเวลา ลองปรับตามที่แนะนำก่อนนะคะ ยังไม่จำเป็นต้องหยุดใช้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเลือดกระปริดกระปอยมาตลอดหลังกินยาคุมควรหยุดไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)