หมอค่ะหนุฝั่งเข็มอยู่ได้3ปีปีแรกหนุไม่มีประจำเดือนเลยค่ะ แต่พอเข้าจะ3ปีหนุมีประจพเดือนเยอะมาก ตอนนี้ประจำเดือนหนุมาได้3เดือนแล้วค่ะ แล้วประจำเดือนไหลทุกวัน

สวัสดีครับ
ในช่วงที่ฝังยาคุมอยู่ ยาคุมอาจมีผลข้างเคียงต่อประจำเดือนได้ใน 2 ลักษณะ คือ
1. ทำให้ประจำเดือนขาดหายไป
2. ทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือน

อย่างไรก็ตามในกรณีที่เคยมีประจำเดือนจาดหายไปนานแล้วอยู่ๆกลับมามีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดติดต่อกันนาน หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการก่อนเนื่องจากสาเหตุของเลือดออกอาจเกิดจากความผิดปกติบางอย่างที่ซ่อนอยู่ได้ เช่น มีการอักเสบติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ หรือเนื้องอกบางอย่าง

ถ้าตรวจแล้วพบว่ามีความผิดปกติก็จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุต่อไป แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติก็อาจใช้ยาปรับฮอร์โมนเพื่อให้เลือดหยุดไหลได้ครับ

สวัสดีค่ะ กรณีประจำเดือนขาดและเลือดออกจากช่องคลอดสามารถเกิดจากผลข้างเคียงจากการฝังยาคุมกำเนิดได้ค่ะ อย่างไรก็ตามแนะนำให้ไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นๆว่ามีรอยโรคภายในที่ทำให้เลือดออกทางช่องคลอดหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีแพทย์อาจจะให้ฮอร์โมนมาทานหรืออาจเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด สำหรับสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เลือดออกทางช่องคลอด เช่น
-ช่องคลอดหรือเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ มีตกขาวผิดปกติ มีสีและกลิ่นเปลี่ยนไป มีคันระคายเคืองช่องคลอด เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
-เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มีอาการประจำเดือนกะปริบกะปรอย ปวดประจำเดือนมากและนาน เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
-ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ หรือ Endometrial hyperplasia ค่ะ เกิดจากเซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกมีการแบ่งตัวมากผิดปกติ เนื่องจากมีการกระตุ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไปในร่างกายโดยที่ไม่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมาเปลี่ยนแปลงให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น
-ภาวะถุงน้ำหลายใบในรังไข่ หรือ Polycystic ovary syndromeค่ะ (PCOS) โดยที่อาการหลักๆของโรคนี้คือ เกิดสิวเยอะ มีขนและผมงอกมาก ประจำเดือนขาดหรือมาไม่ปรกติ มีปัญหาการเจริญพันธ์ เกิดความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือดเช่น เบาหวานค่ะ
-มีรอยโรคภายใน เช่น ติ่งเนื้อ เนื้องอก มะเร็ง
-ความเครียดหรือขาดนอน