September 25, 2018 10:50
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ขอบคุณสำหรับการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อ่านนะครับ ในเรื่องของความเครียด หรือความรู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว อาจจะเป็นสาเหตุมาจากเหตุการณ์และสภาพครอบครัวในอดีตที่ส่งผลกระทบกับอารมณ์และความรู้สึกของเราในปัจจุบันนะครับ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้มองในด้านดีก่อนว่าตอนนี้ครอบครัวก็ให้การสนับสนุนในด้านการเงินและทำให้เราสามารถเรียนพิเศษหรือทำพอร์ทได้ตามที่เราต้องการนะครับ
จะขอแนะนำเป็นด้านๆไป ในเรื่องของการดูแลตัวเองเบื้องต้น อยากให้พยายามทานอาหาร และนอนหลับให้เพียงพอครับ เพราะสุขภาพกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลและสามารถส่งผลกับความรู้สึกและความเครียดได้ครับ ยินดีนะครับที่มีเพื่อนสนิทอยู่ 1 คนที่สามารถไว้ใจได้ ซึ่งผมเข้าใจว่าในตอนนี้ทั้งตัวน้องและเพื่อนก็กำลังอยู่ในช่วงที่จะเข้ามหาวิทยาลัย ตัวน้องเองก็เลยไม่สามารถระบายอะไรให้ได้มากนักเพราะเพื่อนเองก็มีหลายเรื่องอยู่ในตอนนี้ ในเรื่องของที่ปรึกษา หากเพื่อนคนดังกล่าวไม่สามารถมารับฟังได้ ตัวเลือกที่น้องสามารถทำได้คือ ลองบอกเล่าความรู้สึกให้กับคนอื่นๆฟัง ไม่ว่าจะเป็นทั้งแฟน หรือคนในครอบครัวนะครับ การเริ่มต้นติดต่อไปหาคุณพ่อคุณแม่อาจจะเป็นสิ่งที่น้องสามารถลองทำได้ โดยเริ่มจากบทสนทนาง่ายๆก่อนก็ได้ครับ
สำหรับความเครียด หากมีมากขึ้นจนรู้สึกว่าเริ่มรับไม่ไหว และส่งผลกับการเรียน อยากให้ลองดูในเรื่องของการให้คำปรึกษากับนักจิตวิทยาซึ่งน้องสามารถลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตได้ครับ หลายๆที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายแต่สำหรับบางแห่งหากเป็นนักเรียนก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง อีกตัวเลือกหนึ่งคือ สายด่วนกรมสุขภาพจิตที่สามารถโทรไปขอคำปรึกษาได้ฟรีครับ ขอเป็นกำลังใจให้น้องผ่านพ้นช่วงความเครียดนี้ไปและสอบเข้าได้ในที่ที่ต้องการนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะคุณหมอ จะพยายามทานอาหารเยอะๆนะคะ แต่คงไม่พร้อมจะคุยกับคนรอบข้างตอนนี้หรอกค่ะ แต่ยังไงจะพยายามลองดูนะคะ
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
ยินดีครับ
ถ้าไม่พร้อมไม่เป็นไรครับเลือกตัวเลือกที่เราจะสบายใจเป็นสำคัญ แต่อย่างที่บอกไว้หากความเครียดมีมากขึ้นเรื่อยๆ หรืออการเหล่านี้เข้ามาขัดขวางการใช้ชีวืตประจำวันมากขึ้นก็ควรที่จะหาความช่วยเหลือจากใครซักคนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การที่เจอวิกฤตในชีวิต ความสูญเสีย ความเสียใจต่างๆ นั้นอาจทำให้มีอาการดังกล่าวได้ แต่หากมีอาการเรื้อรังมานานอาจนำไปสู่โรคทางด้านจิตใจได้ เช่น ซึมเศร้า การปรับตัวผิดปกติ ในกรณีของหนูอยากให้หนูทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ควรเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์โดยตรงจะดีที่สุดนะคะ หากคุณหมอวินิจฉัยเป็นซึมเศร้าก็จำเป็นต้องใช้ยาในการรักษา
แต่หากคะแนนไม่เกิน 7 คะแนน พี่อยากแนะนำให้หนูลองปรับตัว โดยเริ่มจากตัวเอง เขาไม่โทรหาเรา เราก็โทรหาเค้า เรื่องอดีที่ผ่านมาแล้วก็ไม่ควรเก็บมาคิด มันไม่มีประโยชน์ ให้อยู่กับปัจจุบัน วันนี้ ทำให้ดีที่สุดในวันนี้ก็พอแล้ว อนาคตก็จะดีตาม ควรปล่อยวาง ศักยภาพของคนเราไม่เท่ากัน พยายามหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ ฝึกให้กำลังใจตัวเองบ่อยๆ ทำอะไรเพื่อตัวเอง หาเวลาฟังธรรมมะ ไปออกกำลังกายระบายความคับข้องใจออกมาบ้างอาจทำให้ความรู้สึกที่แย่ๆดีขึ้นบ้างนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
นานมากแล้วค่ะหมอ แต่คนรอบข้างเค้าคงไม่คิดไรหรอกค่ะ มันเกิน7ไปแล้วอ่ะค่ะ แต่ไม่เคยคิดอยากตายก็จริง แต่ไม่กล้าทำค่ะ รักพวกเขามากๆ เอาแต่ใจจนพ่อหนูไม่กล้าหยอกเด็กคนอื่น เพราะกลัวหนูน้อยใจ ไม่รุ้ว่าหนูขาดความอบอุ่น หรือไม่รุ่จักพอกันแน่อ่ะค่ะ หนูอยากได้ความรักจากคนที่หนูรัก หนูไม่อยากใครยุ่งกับพวกเขาด้วยซ้ำ หนูเป็นโรคจิตรึป่าวค่ะ แค่คนมาว่าพี่สาวหนูไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ หนูโกรธจนตัวสั่น หนูต้องทำไงค่ะ จะพูดกับพวกเขาก็กลัวเขาจะไม่รัก มันดูน่าเบื่อมากๆ แต่หนูไม่มีเวลา จะทิ้งเรียนก็ไม่ได้ค่ะ อยากรักษาตัวเอง แต่เรียนก็คือสิ่งที่อยากทำ อยากเป็นหมอให้แม่ภูมิใจ แต่เขาไม่ค่อยรับคนมีปัญหาสุขภาพจิตใจเรียนแพทย์ หนูกังวลทุกอย่าง กลัวเขาผิดหวัง ไม่อยากให้เค้ารุ้ว่าเราเป็นอะไร เขาเหนื่อยมากแล้ว กลัวทุกอย่างค่ะ แต่พูดไม่ได้ กดดันมาก วันนี้ก็ลืมไปหาหมอค่ะ หมอนัดไปดูอาการ ไปโรงพยาบาลทุกอาทิตย์ หมอบอกไม่เหมือนกันซักอาทิตย์ว่าเป็นโรคอะไร ท้อมากค่ะ กลัวพ่อกับแม่รุ้ กลัวเค้าไม่มีกะจิตกะใจทำงาน กลีวแฟนเคลียดเพราะเรา กลัวพี่สาวทำงานไม่ได้ เพราะเค้าเลี้ยงหนูตั้งแต่เด็ก กลัวว่าน้องจะรุ้ ว่าทุกวันนี้พี่เค้าเหมือนคนบ้า ตอนนี้หนูเคลียดเรื่องเรียนมากค่ะ เหมือนไม่มีกำลังใจ ตัวคนเดียว ตันไปหมด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การที่หนูคิดแบบนี้ มันอาจเป็นมุมมองของหนูฝ่ายเดียว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความคิดที่ปรุงแต่งไปในทางลบ ซึ่งความคิดเหล่านี้จะทำให้หนูไม่มีความสุขในชีวิตเลย พี่คาดว่าหนูอาจมีปัยหาด้านบุคลิกภาพและการปรับตัว และชื่นชมหนูนะคะที่หนูพยายามที่จะเข้าใจตัวเอง
สิ่งที่หนูควรทำในตอนนี้คือ
1. แบ่งเวลาเรียน ให้เวลาส่วนตัวกับตัวเองได้ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายบ้าง
2.บอกตัวเองว่าสิ่งที่เราคิด นั้นเป็นมุมมองของเราฝ่ายเดียว ไม่ต้องพยายามหาคำตอบว่าเขารักหรือไม่รัก ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะเดือดร้อนลำบากเพราะหนู แต่ขอให้หนูรู้ไว้แค่ว่า หน้าที่หนูคืออะไร หนูดูแลตัวเองได้ดีพอหรือยัง แต่ในข้อนี้พี่คิดว่าหนูยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ หากหนูดูแลตัวเองเป็น หนูควรพบจิตแพทย์ หากปล่อยให้ความโดดเดี่ยว ความคิดลบกัดกินจิตใจหนูวันนึงอาการของหนูจะแย่ลง และอาจรักษาให้อาการดีขึ้นได้ยากกว่าเดิม ถึงวันนั้นมันอาจทำให้หนูเสียโอกาสดีๆในชีวิตได้
โรคทางด้านจิตใจ ความคิด อารมณ์ พฤติกรรม สามารถเกิดกับคนทุกคนได้ ไม่ต่างอะไรกับโรค กระเพาะ เป็นไข้ไม่สบาย ยุคนี้เป็นยุคสมัยใหม่ คนไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคจิตเวชมากขึ้น จิตแพทย์ นักจิตวิทยามีมากขึ้น หนูควรให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนี้ดูแลหนูดีกว่านะคะ เปรียบเทียบง่ายๆ หากหนูเป็นโรคหัวใจ แต่หนูไปหาหมอกระดูก แล้วหมอกระดูกจะวินิจฉัยโรค หาสาเหตุ ให้การรักษาได้อย่างไรกัน ถึงหนูดึงดันจะรักษากับหมอกระดูก เขาก็รักษาได้แค่อาการเบื้องต้น แล้วหนูจะต้องเสียเวลามากกว่าเดิม แถมโรคไม่หายอีกต่างหาก พี่ว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เหมาะสมนะคะ ยังไงก็แล้วแต่พี่เป็นกำลังใจให้หนูนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ พอดีว่าหนูกำลังจะเข้ามหาลัยค่ะ ต้องเคลียงานส่งอาจารย์บ้าง ติวบ้าง เรียนบ้าง ด้วยความที่ไม่ชอบทำอะไรชักช้า เลยเคลียงานตลอด บางครั้งลืมกินข้าว ปวดไม่เกรนก็ฝืนทำงานจนเสร็จแต่เป็นโรคเคลียดแล้วค่ะ กินยาไมเกรนกินเฉพาะตอนปวดมากๆ ช่วงนี้กินแทบทุกวัน เป็นไมเกรนตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ เพราะแอบเห็นแม่ร้องไห้ เห็นเค้าทะกันครั้งแรก หนูร้องไห้หนักมาก ปกติพ่อจะโอ๋หรือตามใจตลอด เราเหวี่ยงแค่ไหนเค้าก็จะกอดจะโอ๋เรา แต่มันเปลี่ยนไปตอนที่พ่อนอกใจแม่ เราบอกพ่อเลยว่าเราจะไปว่าเมียน้อยเค้า จะประกาศให้โลกรุ้ว่าเขาแย่งผัวชาวบ้าน แม่ก็พยายามห้ามค่ะ แต่ไม่มีใครดึงไว้ได้เลย ไม่รุ้เอาแรงมาจากไหน หนูไปถึงหน้าบ้านเมียน้อยเค้าเลยค่ะแล้วก็ด่าๆๆ เค้าพูดถึงแม่หนูว่า แม่หนูแก่ น่าเบื่อพ่อเลยทิ้ง หนูฟิวขาดมากไม่รุ้เอาแรงมาจากไหนพุ่งไปทุบเค้า พี่ชายหนูมาอุ้มหนูออกไป ตอนนั้นคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ สั่นหมดตัวเลย ทั้งๆที่เป็นคนขี้สงสารมากถึงจะเอาแต่ใจขนาดไหน แล้วพ่อก็เลยดึงแขนเราไม่แรงนะคะเค้าพูดเสียงดังไม่โอ๋เรา เพราะเค้าไม่เคยทำแบบนี้ เค้าว่าหนูก้าวร้าว ตอนนั้นหนูร้องไห้เลยค่ะ ไม่หลับเลย กินอะไรไม่ได้ แม่เลยพาไปหาหมอ ได้ยาไมเกรนมากิน จากนั้นก็กลายเป็นคนพูดน้อย ยิ้มยาก ชอบอยู่คนเดียว ร้องไห้บ่อย ปวดหัวมาก เหม่อ แต่ดีที่ช่วงนั้นอยู่ ม.3 เทอม2 เกรดไม่มีค่อยมีผล แต่ตกมาก จาก 3.92 เหลือ 3.01 คือมันแย่มากอ่ะค่ะ เบื่ออาหาร ลืมกินยาเพิ่มความอ้วน ผอมกว่าเดิมไปอีก พ่อก็เลยรุ้สึกผิดขอโทษแม่ ขอโทษหนู หนูให้อภัยพ่อนะคะ จริงๆ แต่กลับไปร่าเริง พูดมาก ขี้อ้อนเหมือนแต่ก่อนไม่ได้จริงๆค่ะ แม่ขอร้องหนูให้เป็นเหมือนเดิม แต่ทำไมได้จริงๆ ตอนนี้หนูก็ออกมาเรียนมาใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมของพ่อ อยู่มาจนจะจบม.6 แล้ว หนูรู้สึกว่าหนูตัวคนเดียว ทั้งๆที่พ่อแม่ดีกันแล้ว แฟนก็มี เพื่อนก็เยอะแยะ ตอนนี้หนูเคลียดกว่าเดิมมากๆค่ะ หนูเปลี่ยนมากินยาคลายเคลียดแล้ว หนูอยากจะมีคนให้คำปรึกษาบ้าง ตอนหนูรู้สึกแย่มากๆ อยากให้พวกเขาโทรหาหนูบ้าง ถามหนูบ้างค่ะว่าหนูกินข้าวรึยัง เป็นคนเรียนไม่เก่งค่ะ เลยพยายามมากกว่าคนอื่น มันท้อมากๆ มีแฟนเค้าก็เล่นเกมส์ ไปหาเพื่อนบ้างเวลาตรงกันก็ไม่มี พี่สาวก็ทำงาน นานๆจะโทรมา น้องสาวก็เป็นคนเงียบๆไม่พูดไม่ยุ่งกับใคร เลยคิดมาก ขนาดหนูไปหาหมอยังไม่มีใครรู้เลย ไม่กล้าบอกเค้าว่าแย่แค่ไหน เพราะรุ้สึกไม่ค่อยสนิทกับพวกเค้า ทั้งๆที่เป็นคนในครอบครัว เป็นแฟน เป็นเพื่อน หนูไว้ใจเพื่อนอยู่เพียงคนเดียวค่ะ อาจจะไม่ได้ตัวติดกัน แต่ไว้ใจเค้ามากๆ ตอนนี้เค้าก็มีเรื่องเจอแย่ๆ งานก็หนัก เรื่องเรียนเขาอีก หนูอยากมีที่ปรึกษา คอยให้คำปรึกษา ใส่ใจหนูบ้าง ให้หนูรู้สึกไม่ได้ตัวคนเดียวอ่ะค่ะ แต่เพราะหาเงินเองไม่ได้ เลยไม่กล้าไปพบจิตแพทย์ที่ รพ. เงินที่พ่อกับแม่ส่งให้ทุกเดือน เงินเก็บหมดไปกับค่าสมัครเรียน ทำพอตนู่นนี่นั่น แต่ถ้ามีคอร์สอะไรที่มันทำให้หนูดีขึ้นบ้าง ไม่แพงมากก็โอเคค่ะ เพราะอยากเรียนเทคนิคแพทย์ เขาไม่อยากรับพวกมีปัญหาจิตใจอ่ะค่ะ ถ้ามันยาวก็ขอโทษด้วยนะคะ ไม่กล้าคุยที่ไหนจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ😂
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)