..

สวัสดีค่ะ ภาพไม่ขึ้นนะคะ แต่ถ้ามีประวัติทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินและมีเลือดออกหลังจากทานประมาณ 1 สัปดาห์หมอคิดถึงเลือดออกกะปริบกะปรอยจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินค่ะ นอกจากนี้อาจเกิดผลข้างเคียงอื่นๆร่วมได้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดเต้านม ปวดท้อง ประจำเดือนเลื่อนหรือผิดปกติ และไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 กล่องต่อเดือน ยาคุมฉุกเฉินมีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยแตก หรือลืมทานยาคุมแบบรายเดือนค่ะ

กรณีมีเพศสัมพันธ์วันที่ 11 กค. ถ้าผ่านมายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหมอแนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ เพราะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ สำหรับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85%ค่ะ ถือว่าประสิทธิภาพไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการคุมด้วยวิธีอื่นๆ ดังนั้นถ้าประจำเดือนขาดแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ โดยแนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด หรือสามารถตรวจได้เร็วสุดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน

และถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไปแนะนำคุมด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน แบบฉีด แบบฝัง เป็นต้นค่ะ ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นการคุมประจำนะคะ

ภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน อาจมีเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา หรืออาจไม่มีเลยก็ได้ค่ะ ไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่

ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วัน ซึ่งประจำเดือนปกติก็จะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

ดังนั้น แนะนำให้พิจารณาว่าหากเลือดที่ออกมามีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย และมาตรงตามรอบประจำเดือนปกติของผู้ถาม ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นประจำเดือนค่ะ ซึ่งถ้ามีประจำเดือนมาแล้วก็หมายถึงไม่มีการตั้งครรภ์นะคะ

แต่ถ้าไม่ใช่ หรือไม่มั่นใจ แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินซ้ำอีก 1 แผงโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 11 กรกฎาคมค่ะ

และหลังจากนี้ ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่นะคะ

ถ้าไม่มี หรือกังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ

ถ้าประจำเดือนมาแล้ว หากคาดว่าจะยังมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ แต่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสมกับผู้ถามมาใช้นะคะ เพราะถ้ายังใช้ถุงยางไม่เหมาะสม และรับประทานยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติเช่นนี้อยู่อีกเรื่อย ๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากค่ะ