May 04, 2019 07:38
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เศร้าต้องมาร้องไห้อยู่บ่อยๆ ไม่อยากออกไปไหน อยากทำสิ่งต่างๆน้อยลง นอนไม่หลับ และมีความคิดที่จะทำร้ายตัวเองนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมเพื่อยืนยันให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ในกรณีนี้ที่คุณแม่ยอมเปิดใจที่จะพาไปพบจิตแพทย์แล้วหมอก็คิดว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่คุณแม่จะให้ความช่วยเหลือในการรักษาแก้ไขอาการที่เกิดขึ้นครับ แต่ถ้าหากคุณแม่ดูยุ่งมากหรืออาจลืมไปหมอก็แนะนำให้ลองย้ำเตือนคุณแม่ดูอีกสักทีก่อน รวมถึงอาจนัดหมายกับทางโรงพยาบาลด้วยตัวเองไปก่อนและให้คุณแม่ช่วยพาไปเมื่อถึงวันนัดก็ได้ครับ
และถ้าหากต้องการคำปรึกษาในเบื้องต้นเพิ่มเติมก่อนไปพบจิตแพทย์ก็สามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการที่หนูเล่ามาอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้นะคะ ซึ่งอาการของโรคซึมเศร้า ได้แก่
1.เบื่อหน่าย
2.ท้อแท้ เศร้า
3.ไม่หลับ
4.เบื่ออาหาร
5.ไม่มีสมาธิเหม่อลอย
6.กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย
7.อ่อนเพลีย
8.รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย/อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเกิน 7 ข้อ ต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ ก็อาจบ่งถึงอาการของโรคซึมเศร้า
การรักษาโรคซึมเศร้าที่ได้ผลดีคือ การรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำจิตบำบัด ซึ่งยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมองทำให้ควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมได้ง่ายขึ้น และการทำจิตบำบัดจะช่วยให้เข้าใจปัญหา ปรับตัวกับปัยหาและดำเนินชีวิตได้เป็นปกติค่ะ
ในกรณีนี้แนะนำให้หนูเปิดใจคุยกับแม่ ถ้าเราไม่บอก ไม่เล่า คนอื่นก็จะไม่เข้าใจเรานะคะ แต่หากคุยแล้วแม่ไม่เห็นความสำคัญที่จะพาหนูไปพบจิตแพทย์ หนูสามารถไปได้ด้วยตัวเองนะคะ รีบทำการรักษา/แก้ไข อย่าปล่อยให้เรื้อรังและรุนแรงมากขึ้นซึ่งจะทำให้มีอาการอื่นๆแทรก ทำให้รักษาได้ยากขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาตอนนี้คุณกำลังอยู่ในภาวะที่มีความเครียดสูง และความสุขในการใช้ชีวิตก็ไม่มีเหมือนที่เคยมี ความคิดเรื่องโทษตัวเองเข้ามาเยอะขึ้น ซึ่งสิ่งที่ดีก็คือยังมีคนที่คุณสามารถพูดคุยด้วยได้ซึ่งก็คือ คุณครูและคุณแม่ เพียงแต่คุณแม่ก็ยังไม่ได้พาไปหาจิตแพทย์ในทันทีนะครับ ภาวะที่เป็นอยู่อาจจะเป็นเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้าอย่างที่คุณหมอและพี่นักจิตวิทยาได้ให้ข้อมูลไว้นะครับ ยิ่งเริ่มมีอาการนอนหลับยากขึ้นและความอยากอาหารลดลงแล้ว ผมคิดว่าการเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับตัวคุณได้ครับ
ผมไม่แน่ใจนะครับว่าตัวคุณอายุเท่าไหร่แล้ว แต่ในบางโรงพยาบาลถึงจะมีอายุต่ำกว่า 18 ปีก็สามารถเข้าพบจิตแพทย์ได้ด้วยตนเองนะครับ หากคุณแม่ทำงานประจำ บางโรงพยาบาลที่เป็นโรงพยาบาลรัฐก็มีคลีนิกนอกเวลาด้านจิตเวชอยู่ เช่น โรงพยาบาลศรีธัญญาเป็นต้นนะครับ ลองหาข้อมูลดูได้ในโรงพยาบาลที่ใกล้บ้าน
นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญอย่างจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาแล้ว ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้อารมณ์เศร้าลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ ในเรื่องของความคิดฆ่าตัวตาย หากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือคิดว่าตนเองมีแนวโน้มที่จะทำร้ายตนเอง ทำร้ายผู้อื่น หรือฆ่าตัวตาย และคุณไม่สามารถที่จะพาตนเองไปยังโรงพยาบาลได้ สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือคุณสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำคุณไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ หากคุณมีคำถามอื่นๆ ก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะตอนนี้หนูรู้สึกว่าหนูเริ่มไม่มีความสุขการพบปะกับคนในครอบครัวน้อยลงเริ่มปิดกั้นตัวเองจากคนอื่นมากขึ้นหนูเป็นคนที่ชอบเก็บคำพูดของคนอื่นมาคิดเวลาแม่พูดอะไรหนูจะคิดว่าหนูเป็นแบบนั้นตลอดหนูจะคิดแล้วก็โทษตัวเองอยู่เสมอหนูรู้สึกเหมือนโดนกดดันจากแม่จากโค้ชและจากตัวหนูเองด้วยหนูมักจะแอบร้องไห้ตอนกลางคืนบ่อยๆบางทีร้องจนถึงเช้าเลยค่ะช่วง5-6เดือนที่ผ่านมาหนุเริ่มทำร้ายตัวเองโดยการกรีดข้อมือแต่ไม่ได้ใช้คัตเตอร์นะคะหลังจากนั้นหนูก็ลองกินยาเกินขนาดค่ะหนูกินทิฟฟีไป4เม็ดก่อนนอนแค่ครั้งเดียวแล้วทุกครั้งที่หนูตื่นขึ้นมาหนูรู้สึกไม่อยากอยู่หนูเคยลองไปปรึกษาครูเรื่องการพบจิตแพทย์เพราะหนูอยากไปหาหมอโดยที่ไม่อยากให้แม่รู้หนูกลัวเค้าจะเครียดแต่สุดท้ายแม่ก็รู้ตอนแรกที่แม่บอกจะพาไปหาจิตแพทย์ใจหนูชื้นมากเลยแต่สุดท้ายเค้าก็ไม่แม้แต่จะคิดถามว่าจะไปวันนี้เลยมั้ยแต่หนูก็เข้าใจว่าเค้าคงยุ่งหนูเลยไม่ได้อะไรมากแต่ตอนนี้หนูนอนหลับยาก เริ่มอยากอาหารน้อยลงจนถึงไม่อยากอาหาร หนูรู้สึกไม่อยากออกจากบ้านหรือไปไหนสถานการณ์หรืออาการแบบนี้หนุเป็นอะไรแล้วควรทำยังไงหรอคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)