พ่อเเม่ผมเป็นคนที่ชอบเลือกอะไรหลายอย่างๆในชีวิตให้ผมเเล้วผมไม่สามารถขัดอะไรได้เลยเพราะเดี๋ยวจะโดนด่าพ่อเเม่ผมเป็นคนดุมากๆเวลาที่ผมทำอะไรผิดพลาดจะโดนด่าเเรงมากๆเเละผมไม่เคยได้กำลังใจจากพ่อเเม่เลยผมเเอบร้องไห้คนเดียวตั้งเเต่เด็กเเล้วเเละมันทำให้ผมเป็นคนไม่กล้าเเสดงออกไม่อยากเข้าสังคมผมเลยอยากรู้ว่า ผมจะเป็นโรคกลัวเข้าสังคมหรือเป็นโรคซึมเศร้าหรือป่าว

วิธีการเลี้ยงดูที่ตึงเกินไป ไม่เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น/แสดงความสามารถ ส่งผลให้เด็ก Low self ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าแสดงออก เกิดความรู้สึกทางลบต่อตัวเอง อาจจำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น มีปัญหาในการปรับตัวทางสังคม มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ มีปัญหาทางด้านอารมณ์ โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้า

ในกรณีนี้ อยากให้สำรวจอาการของภาวะซึมเศร้า ดูก่อนนะคะ
โดยให้สำรวจอาการในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาการเหล่านี้เกิน 7 ข้อหรือไม่
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า ร้องไห้
3.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
4.นอนไม่หลับ หลับยาก หรือ หลับมาเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร หรือทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ คิดช้า
7.กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย
8.รู้สึกไร้ค่า สิ้นหวัง
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเกินกว่า 7 ข้อ ก็อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ซึ่งควรพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ

สวัสดีครับ

จากที่เล่ามาก็จะเห็นได้นะครับว่าการที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูมาแบบค่อนข้างเข็มงวดก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกไม่กล้าแสดงออก และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกกดดัน และมีความเครียด และความเศร้าอยู่มากในการใช้ชีวิตประจำวัน ตรงนี้ต้องบอกนะครับว่ารูปแบบการเลี้ยงดูตรงนี้อาจจะเข้ามามีผลมากกับลักษณะบุคลิกภาพของคุณในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามการเลือกการเดินชีวิตต่อไปหรือการเปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยบางอย่างนั่นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ครับ

ผมคิดว่าการที่คุณไม่กล้าแสดงออก ไม่อยากเข้าสังคม หรือความเศร้าต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ควรจะได้รับการจัดการโดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อบรรเทาความเศร้าลงบ้างและมีการฝึกในการเปลี่ยนแปลงมุมมองและความคิดบางอย่างในการดำเนินชีวิตของคุณ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับที่คุณตระหนักรู้ได้ว่าคุณลักษณะบางอย่างเป็นผมมาจากการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะทำให้เมื่อคุณทำงานกับนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ คุณจะหาวิธีการในการรับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้รวดเร็วขึ้นครับ

นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความเครียดลดลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ หรือหากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ