ฉีดยาคุมมาเกือบ 2ปี ค่ะ หลังจากนั้นเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง แต่ตกขาวมาเยอะมาก อาการแบบนี้มีส่วนทีาจะเกิดการตั้งครรภ์ได้มั้ยค้ะ ขอบคุนค่ะ

ได้ไปฉีดยาคุมตรงตามนัดต่อเนื่องทุกครั้งไหมคะ
ถ้าครบไม่น่าตั้งครรภ์ค่ะ ตกขาวที่เกิดขึ้นน่าเป็นเพราะผลจากฮอร์โมนมนยาคุมมากกว่าค่ะ
หากมีสี กลิ่นผิดปกติ อันนี้ต้องรีบพบแพทย์ค่ะ

1. ถ้ามีการฉีดยาคุมต่อตามนัดสม่ำเสมอ มีโอกาสน้อยมาก (คือ 0.2%) ที่จะมีการตั้งครรภ์ระหว่างที่ใช้ยานะคะ และถ้าใช้ยาคุมชนิดฉีดทุก 3 เดือน จะมีผลข้างเคียงเด่น ๆ ในเรื่องของเลือดกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนได้ค่ะ (คาดว่าผู้ถามน่าจะฉีดแบบ 3 เดือนใช่มั้ยคะ เพราะถ้าฉีดแบบ 1 เดือน จะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติ จึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ)

ดังนั้น หากมีการฉีดยาคุมต่อตามนัดเสมอ การที่มีประจำเดือนไม่ปกติหรือไม่มีประจำเดือนน่าจะเป็นข้างเคียงของยาคุมเองค่ะ ซึ่งไม่มีอันตรายนะคะ ไม่ต้องกังวล (ยกเว้นในกรณีที่ประจำเดือนไม่ปกติแบบที่มีเลือดออกมากหรือนานผิดปกติจนอาจทำให้เสียเลือดมากจนเกิดภาวะซีด ที่จำเป็นต้องรักษา)

อย่างไรก็ตาม หากกังวลใจเรื่องการตั้งครรภ์ สามารถซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจได้ค่ะ โดยตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

2. ส่วนอาการตกขาวที่เกิดขึ้น หากใช้ยาฉีดชนิด 3 เดือน ไม่น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาค่ะ (และในกรณีที่เป็นผลข้างเคียงจากยาฉีดชนิด 1 เดือน จะมีปริมาณไม่มากและค่อนข้างสม่ำเสมอ)

ดังนั้น เมื่อมีอาการไม่ปกติ ได้แก่ ตกขาวมีปริมาณมากผิดปกติ, ตกขาวมีสีแปลก ๆ, ตกขาวมีกลิ่นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, มีอาการแสบหรือคันในช่องคลอด หรือปวดท้องอย่างรุนแรง แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

สรุปว่าตอนนี้หยุดฉีดยาคุมแล้วใช่มั้ยคะ

การใช้ยาฉีดชนิด 1 เดือน นอกจากจะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังเป็นการบังคับให้มีประจำเดือนมาทุก ๆ 28 วัน เหมือนกับการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมนั่นเองค่ะ หากหยุดฉีด ก็มีโอกาสที่ประจำเดือนจะมาเองตามธรรมชาติ ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนไปจากรอบ 28 วันได้ค่ะ ขึ้นกับความแปรปรวนของฮอร์โมนจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น วัย, ความเครียด หรือการเจ็บป่วย

หากใช้ยาคุมชนิดฉีดทุก 1 เดือน ในระหว่างใช้อาจมีตกขาวปกติ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยาได้ค่ะ แต่มักมีปริมาณเล็กน้อยสม่ำเสมอ ไม่ได้ออกมามากหรือมีลักษณะผิดปกติร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม หากหยุดฉีดยาแล้ว ตกขาวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับยาคุมที่เคยใช้แล้วค่ะ และหากมีตกขาวปริมาณมากผิดปกติ ควรต้องไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงนะคะ

และถ้าหยุดฉีดยาคุมแล้ว ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้หากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันค่ะ ดังนั้น หากประจำเดือนมาช้ากว่าปกติมาก คงต้องตรวจการตั้งครรภ์ตามที่แนะนำไปแล้วนะคะ

นับจากวันที่ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดมาจนถึงปัจจุบัน หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพสูง ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นะคะ ซึ่งการสังเกตลักษณะของหญิงตั้งครรภ์ ไม่ชัดเจนและแม่นยำเท่ากับการตรวจด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ค่ะ

ดังนั้น หากต้องการทราบผลที่แน่นอน แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ (หรืออาจไปตรวจการตั้งครรภ์ทางเลือด ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 9 วันก็ได้ค่ะ)