เวลาที่ไม่ได้คุยกับใครนั่งคนเดียวหรืออยู่คนเดียว ชอบนั่งคิดอะไรที่มันแย่ๆ ด้านลบ คิดว่าตัวเองไม่มีค่ากับทุกสิ่งน้อยใจกับทุกเรื่อง เคยคิดสั้นหลายครั้ง ชอบคิดแบบถ้าเราโดนรถชนจะมีใครมาดูเราไหม ถ้าเราเป็นอะไรไปจะยังมีคนสนใจเราอยู่ไหม บางครั้งชอบทำร้ายตัวเอง เคยคิดอยากแทงตัวเองก็ยังไม่ทำ เคยต่อยตัวเองหยิบไม้มาตีตัวเอง ต่อตัวตัวเองบ้าง ต่อยกำแพงทำทุกอย่าให้ตัวเองเจ็บ เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกมาก ร้องไห้กับอะไรง่ายๆ ส่วนตัวชอบคิดมากคิดเล็กคิดน้อย จำทุกคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ จริงจังทุกเรื่องที่มีคนพูดให้ฟัง อยากรู้ว่าตอนนี้หนูเป็นอะไรหรือเปล่า ตอนนี้อายุ17 เป็นนักเรียน

สวัสดีครับ
การมีอารมณ์เศร้า ร้องให้บ่อยๆมีความคิดในแง่ลบกับตัวเองจนมีความรู้สึกอยากฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเองนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

ในระหว่างนี้หมอก็อยากให้คุณหาเวลาให้ตนเองได้ผ่อนคลาย พยายามหาคนพูดคุยด้วย อย่าปล่อยให้ตนเองอยู่คนเดียว พยายามออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และหากิจกรรมที่ตนเองชอบมาทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นดนตรี วาดรูป ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้บ้างอีกทางหนึ่งครับ

การเก็บเรื่องราวต่างๆไว้คนเดียว โดยไม่ได้ระบายออกมาอาจก่อให้เกิดความเครียดสะสม เมื่อเครียดมากๆ เป็นเวลานานๆ อาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพจิตได้ง่ายค่ะ ในกรณีที่มีอาการเศร้า คิดแง่ลบ อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าก็เป็นได้นะคะ

เบื้องต้นลองทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ

ในระหว่างรักษาก็ต้องทานยาสม่ำเสมอ ไปพบแพทย์ตามนัด หมั่นออกกำลังกาย ฝึกปรับความคิดในแง่บวก จะช่วยให้ผ่านปัญหานี้ไปได้นะคะ

สวัสดีครับ

อยากจะขอเพิ่มเติมจากอาการและข้อมูลเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่คุณหมอและพี่นักจิตวิทยาได้อธิบายไว้อย่างละเอียดด้านบนนะครับ โดยจากที่เล่ามา ผมรู้สึกได้ครับว่าตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับความเครียดและความรู้สึกว่าไม่สามารถพูดคุยกับใครในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นได้เลย การที่ตัวคุณเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกและมีความคิดด้านลบๆขึ้นมาบ่อยครั้งมันทำให้คุณเองต้องเผชิญกับอารมณ์ด้านลบ และทำให้เกิดความคิดเรื่องฆ่าตัวตาย และเกิดพฤติกรรมทำร้ายตัวเองขึ้นเพราะอารมณ์เหล่านั้น

ในส่วนนี้ผมอยากแนะนำว่าอยากให้ลองเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของความคิด การไม่เห็นคุณค่าในตนเอง และช่วยเป็นที่พึ่งให้ตัวคุณได้ลองระบายความรู้สึกและความคิดต่างๆออกมา โดยที่คุณอาจจะลองปรึกษาครอบครัวเพื่อให้พาไปพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา แต่หากว่าทางครอบครัวไม่สนับสนุน คุณสามารถเข้ามาติดต่อเพื่อขอรับบริการได้ด้วยตนเองนะครับ หากว่ามีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายก็อยากจะแนะนำว่าให้ลองมองหาโรงพยาบาลของรัฐซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชน หรือ คุณสามารถติดต่อไปที่โรงพยาบาลที่คุณมีสิทธิรักษาพยาบาลอยู่เพื่อที่จะใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลของคุณโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหรือเสียเพียงเล็กน้อย ซึ่งหากว่าโรงพยาบาลหรือคลินิกที่คุณมีสิทธิอยู่ไม่มีบริการด้านจิตเวช ทางโรงพยาบาลสามารถทำใบส่งตัวให้คุณไปยังโรงพยาบาลอื่นๆที่มีบริการที่เหมาะสมได้โดยที่คุณแทบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเสียเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ คุณสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลของตนเองได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้นะครับ

http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml

นอกจากนั้นอยากให้ลองมองดูนะครับ ในบางโรงเรียนจะมีอาจารย์แนะแนวหรืออาจารย์ที่ปรึกษาที่จะสามารถให้นักเรียนได้เล่าเรื่องราวความเครียดให้กับคุณครูเหล่านี้ได้และพวกเขาจะเป็นผู้ช่วยค้นหาวิธีการในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป ซึ่งการพูดคุยกับคุณครูเหล่านี้พวกเขาก็อาจจะเป็นหนึ่งวิธีการในการช่วยเหลือคุณได้อีกทางหนึ่งเช่นกันครับ

สุดท้ายนี้อยากให้คุณได้หันกลับมาดูแลตนเองนะครับในช่วงนี้ พยายามทานอาหารให้ครบมื้อ ทานของที่ตนเองชอบ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือทำกิจกรรมต่างๆได้ตามที่คุณหมอแนะนำครับ และอีกส่งหนึ่งที่สำคัญคือ เรื่องของการทำร้ายตนเองและความคิดฆ่าตัวตาย โดยหากคุณมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือว่ามีแนวโน้มที่เราจะทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือหรืออยู่ด้วยกับคุณ หรือติดต่อไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ 24 ชม. เพื่อที่คุณจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมในด้านการช่วยเหลือเชิงจิตใจในเบื้องต้น หรือคุณสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปได้นะครับ และหากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถถามเข้ามาได้นะครับ

เมื่อมีอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า หมอก็แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการก่อนครับ

โรคซึมเศร้านั้นเกิดจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไปและสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้โดยการรับประทานยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมองให้กลับเข้าสู่สมดุลใหม่ รวมถึงอาจมีการทำจิตบำบัดและมีการรักษาด้วยวิธีอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งทางจิตแพทย์จะพิจารณาเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคนให้ครับ

เมื่อมีอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า หมอก็แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการก่อนครับ

โรคซึมเศร้านั้นเกิดจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไปและสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้โดยการรับประทานยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมองให้กลับเข้าสู่สมดุลใหม่ รวมถึงอาจมีการทำจิตบำบัดและมีการรักษาด้วยวิธีอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งทางจิตแพทย์จะพิจารณาเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคนให้ครับ

อาการเหล่านี้ ไม่ว่าจะเคลียด หรือ ซึมเศร้า สามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้นะคะ แต่ต้องเริ่มรักษาให้เร็วตั้งแต่แรกเริ่มมีอาการ รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ดูแลตัวเองทานยาตามคำสั่งแพทย์ อาการจะดีขึ้น ปรับตัวใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นนะคะ