August 25, 2019 22:29
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
หากมีปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพจิตต่างๆ คิดว่าไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้ การพบจิตแพทย์เป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ตามสิทธิการรักษาครับ
สามารถเช็คสิทธิการรักษาได้จากเว็บไซต์ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
________________________
อาการของโรคซึมเศร้า ได้แก่อาการต่างๆดังต่อไปนี้
1. มีการนอนหลับที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น นอนมากขึ้น หรือนอนไม่หลับ
2. ไม่สนใจในสิ่งที่เคยชอบหรือกิจกรรมที่เคยทำปกติ
3. รู้สึกว่าตนเองผิด ทำอะไรก็ผิดเสมอ
4. เคลื่อนไหวช้าลงหรือกระสับกระส่าย
5. ไม่มีสมาธิในการจดจ่อทำสิ่งต่างๆได้
6. มีความเจริญอาหารที่มากกว่าปกติ หรือเบื่ออาหารผิดปกติ
7. มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
8. อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ไม่มีเรี่ยวแรง
ถ้ามีอาการต่างๆดังต่อไปนี้หลายข้อต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่าสองสัปดาห์ควรไปพบจิตแพทย์ครับ หากสงสัยว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้าอาจหาแบบทดสอบคัดกรองโรคนี้ทำได้ทางอินเตอร์เน็ต หรืออาจโทรไปปรึกษาสายด่วนโรคซึมเศร้าได้ที่เบอร์ 1323 ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ นอกจากนี้ยังสามารถไปพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาอาการต่างๆได้เสมอครับไม่จำเป็นต้องมีอาการหลายข้อหรือเป็นนานนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
แนะนำเพิ่มเติมเรื่องซึมเศร้า อยากให้หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาเบื้องต้นจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
เรื่องที่เล่ามานั้นหมอคิดว่าคงทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ลำบากใจไม่น้อยนะครับ การที่ต้องถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ขอบไม่ถนัดนั้นไม่ว่าใครก็คงรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจทั้งนั้น แต่สิ่งทำให้ความรู้สึกเหล่านี้ดูเหมือนจะมากกว่าปกติแล้วคือความรู้สึกเหล่านี้เริ่มมีผลต่อการใช้ชีวิต ความสนุกเพลิดเพลินในกิจกรรมส่วนอื่นๆตามมาแล้ว อาการตามที่เล่ามานี้จึงมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้นะครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามา เรื่องโรคซึมเศร้าอยากให้ดูอาการตามที่คุณหมอได้ให้ข้อมูลไว้ด้านบนเลยนะครับ แต่อ่านแล้วไม่ว่าจะเข้าข่ายโรคซึมเศร้าหรือไม่ ความรู้สึกของหนูก็คงต่อสู้มาเยอะ และเจอกับความกดดันต่างๆมากมายเข้ามาไม่หยุดหย่อน เจอกับความไม่เข้าใจ การปฎิเสธสิ่งที่หนูอยากเป็น และไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปหาใครในตอนนี้
ผมอยากให้รู้นะครับว่าจริงๆแล้วยังมีอีกหลากหลายตัวช่วยที่สามารถช่วยหนูได้ ในปัจจุบันการที่มีอายุไม่ถึง 18 ปีจะถูกระบุว่าไม่สามารถพบจิตแพทย์ได้หากไม่มีผู้ปกครอง แต่หากว่าหนูลองติดต่อ และพูดคุยถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นดู หลายๆโรงพยาบาลมีแนวทางที่จะช่วยให้หนูได้เข้ารับการช่วยเหลือและบริการที่หนูสมควรจะได้รับ
การที่ต้องอยู่ในเส้นทางที่พ่อและแม่ขีดไว้ ถูกตัดสิน และพูดจาทำร้ายจิตใจจากครู หรือผู้ใหญ่ เป็นสิ่งที่หนูไม่สมควรถูกกระทำครับ แต่อย่างไรก็ตามการพูดหรือเรียกร้องสิ่งที่หนูต้องการออกไปอาจจะต้องดูวิธีการและจังหวะให้ดีครับ การเข้าพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์จะมีส่วนช่วยให้หนูค่อยๆเรียนรู้ในการรับมือกับความเครียดและความกดดันที่หนูได้รับอยู่ตอนนี้ครับ
นอกจากการเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา การดูแลตนเองในเรื่องของการบริหารจัดการความเครียดในชีวิตประจำวันของหนูก็สำคัญเช่นกันนะครับ และเป็นสิ่งที่หนูควรที่จะทำควบคู่ไปกับการรับบริการจากผู้เชี่ยวชาญ โดยหนูสามารถพูดคุยกับเพื่อนที่ไว้ใจ หรือลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือสนุกผ่อนคลาย และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ความเครียดและความรู้สึกในทางลบลดน้อยลงได้บ้าง คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวครับ ถ้าเป็นไปได้การพูดคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจถึงผลของการกระทำของเขา ก็เป็นเรื่องที่จะมีผลดีในอนาคต หากว่าคุณพ่อคุณแม่เปิดใจที่จะรับฟัง
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งในเรื่องของความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้น ขอย้ำเหมือนคุณหมอท่านอื่นๆว่า สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ หากมีคำถามอื่นๆที่สงสัยสามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ แต่หากมีความคิดฆ่าตัวตายเข้ามามากๆ สิ่งแรกควรทำคือการพาตนเองไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง หากว่าไม่สามารถทำได้ก็ควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำตัวเราไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ ขอเป็นกำลังใจให้หนูผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อยากรู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าจริงรึป่าว ตัวเราเองรู้สึกว่าเหมือนจะเริ่มมีอาการที่เหนื่อยท้อเเท้ไม่อยากทำอะไรเลยตั้งเเต่ม.3เพราะเเม่บังคับให้เรียนพิเศษในวิชาที่เราไม่ได้ชอบ เรารู้สึกกดดันเเละเครียดมากคิดอยากฆ่า...ทุกวันเลย ตื่นมาทุกวันไม่มีความสุขเลย เคยโดดเรียนเเล้วไปนั่งร้องไห้ด้วยค่ะเพราะครูสอนพิเศษเป็นญาติฝ่ายเเม่เราเขาเคยตีเราด้วยค่ะด่าว่าเราโง่ด้วยเอาปากกามาเคาะหัวด้วยจำได้ว่าเจ็บมาก จนมาถึงปัจจุบันเราอยู่ม.5เเล้วรู้สึกว่ามันหนักกว่าเดิมค่ะพ่อแม่เราบังคับให้เราเรียนในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบค่ะเรารู้ว่าเราอยากเป็นอะไรอยากทำอาชีพอะไรเรารู้เเต่พ่อแม่ไม่ยอมค่ะ เคยพูดกับพ่อแม่ว่า “เหนื่อย” ด้วยค่ะ เหนื่อยกับทุกอย่างไปหมดเลยค่ะ กิจกรรมที่เราทำเเล้วสนุกตอนนี้ไม่สนุกแล้วค่ะเราคิดอยาก......ตั้งเเต่เดือน-2เดือนก่อนค่ะ ตกลงว่าเราเข้าข่ายโรคซึมเศร้าเเล้วใช่มั้ยคะ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)