ช่วงเดือนตุลาคมมีเพศสัมพันธ์กับแฟน (ทานยาคุมกำเนิด) หลั่งใน หลังจากคืนนั้นตอนเช้ามีเลือดไหล และหายไปในตอนเย็น และมีอีกครั้งคืนนั้น แต่เดือนนั้นไม่เป็นประจำเดือนค่ะ เมื่อเดือนที่แล้วเหมือนจะมีประจำเดือนมาแค่ 2 วัน มีอาการปวดท้องในวันแรก อยากทราบว่าแบบนี้มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ

เนื่องจากไม่ทราบรายละเอียดของการใช้ยาคุม ว่าเป็นชนิดใด และใช้ถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่ จึงยากที่จะแนะนำนะคะ

อย่างไรก็ตาม หากเลือดที่ออกมาครั้งล่าสุดมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย มาต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 วัน และมาตามรอบปกติ ก็น่าจะเป็นเลือดประจำเดือนค่ะ

และถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ

แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าเลือดนั้นเป็นประจำเดือนจริงหรือไม่ เช่น มีแค่เลือดกะปริบกะปรอย และมาไม่ตรงกับรอบประจำเดือนปกติ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อความชัดเจนได้นะคะ

สวัสดีครับ
เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้ชัดเจนมากขึ้นหมอรบกวนขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนะครับ
- รับประทานยาคุมกำเนิดยี่ห้อใดอยู่
- ในตอนที่มีเพศสัมพันธ์นั้นเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่และรับประทานยาคุมกำเนิดมานานแค่ไหนแล้ว
- ประจำเดือนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มาในวันใดบ้าง

ในเบื้องต้นนั้นหมอขอพูดถึงประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดทั่วๆไปก่อนนะครับ

ยาคุมกำเนิดนั้นถ้าหากรับประทานได้อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอโดยตลอดจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้อยู่ประมาณ 0.3% และในช่วงที่รับประทานยาคุมกำเนิดประจำเดือนก็ควรจะมาอย่างสม่ำเสมอในทุกไเดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อยาคุมที่รับประทาน

ถ้าหากประจำเดือนมีลักษณะที่ผิดปกติไป ก็ต้องสงสัยว่าอาจมีการตั้งครรภ์ได้เอาไว้ก่อน ถ้าหากมีประจำเดือนที่ผิดปกติไปก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

หากผู้ถามใช้ยาคุมยาสมินแผงแรก ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังรับประทานค่ะ แต่ถ้าใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องใช้ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้นะคะ

โดยปกติ จะไม่มีประจำเดือนมาในระหว่างที่รับประทานยาคุมยาสมินค่ะ แต่เลือดประจำเดือน จะมาเมื่อใช้หมดแผงไปแล้ว โดยมาในช่วงที่เว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่นะคะ

ดังนั้น หากมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัยในช่วงเวลาดังกล่าว ก็คือเลือดประจำเดือนค่ะ และเมื่อมีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงไม่มีการตั้งครรภ์แล้วนะคะ

และเมื่อเว้นว่างจนครบ 7 วันแล้ว ก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ได้เลยนะคะ จะได้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันค่ะ

เนื่องจากยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าเริ่มรับประทานยาคุมในวันที่เท่าไหร่ และเลือดที่ออกมาในขณะที่รับประทานยาคุมเม็ดที่เท่าไหร่จึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ชัดเจนนะครับ

แต่ถ้าหากคุณได้เริ่มรับประทานยาคุมมานานเกิน 7 วันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ก็ถือว่าสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยหลังจากนั้นแล้วครับ เพราะยาคุมจะออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่แล้ว

ในการรับประทานยาคุม yasmin นั้นประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานยาหมดแผงและมีการเว้น 7 วันก่อนรับประทานยาแผงต่อไป ถ้าหากประจำเดือนมาในช่วงนี้ก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์ครับ แต่ถ้าหากในช่วงที่เว้น 7 วันไม่มีประจำเดือนมาเลยก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูในตอนเช้าของวันที่จะเริ่มรับประทานยาคุมแผงใหม่ ถ้าหากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ก็ให้รับประทานยาแผงต่อไปได้ตามปกติครับ

ส่วนอาการเลือดออกกระปริดกระปรอยนั้นอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่รับประทานยาคุม 2-3 แผงแรกครับ แต่ถ้าหากเลือดที่ออกระหว่างรอบเดือนนั้นมีปริมาณมาก หยุดยาก หรือมีเลือดออกในลักษณะนี้บ่อยๆหลังรับประทานยาคุมเกิน 2-3 แผงแรกไปแล้ว ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

หมอรบกวนขอข้อมูลเพิ่มเติมนะครับว่า
- เริ่มรับประทานยาคุมเม็ดแรกวันที่เท่าไหร่
- รับประทานยาไปถึงเม็ดเท่าไหร่แล้วหยุดรับประทาน
- มีเพศสัมพันธ์วันที่เท่าไหร่บ้าง

ถ้าหากเป็นในกรณีนี้เลือดที่ออกมาผิดปกติน่าจะเป็นผลมาจากการรับประทานยาคุมกำเนิดที่ไม่สม่ำเสมอในช่วงนั้นทำให้ระดับฮอร์โมนในเลือดแปรปรวนครับ

การรับประทานยาคุมกำเนิดที่จะให้ผลการป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างต่อเนื่องนั้นจะต้องเป็นการรับประทานสม่ำเสมอทุกวัน หรือถ้าลืมรับประทานยาก็จะต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมง และหลังจากหยุดรับประทานยาคุมกำเนิดไปแล้วยาคุมก็จะไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ต่อได้โดยเฉพาะถ้าหากรับประทานยาคุมไม่สม่ำเสมอครับ (โดยปกติถ้ารับประทานยาคุม yasmin สม่ำเสมอ ยาจะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้อีก 7 วันหลังรับประทานยาหมดแผง)

เมื่อพิจารณาจากการรับประทานยาคุมที่ผ่านมานั้น หมอคิดว่ามีโอกาสสูงที่ยาคุมจะยังไม่สามารถออกฤทธิ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ ในกรณีนี้จึงถือว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้สูง

หมอแนะนำว่าให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์นั้น ระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์มักจะยังไม่สูงมากทำให้อาจตรวจพบได้ยากหากไม่ได้ตรวจโดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าซึ่งเป็นปัสสาวะที่มีระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์เข้มข้นที่สุดครับ ดังนั้นจึงควรใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจครับ

การตรวจการตั้งครรภ์นั้นจะใช้เวลาตรวจสั้นๆประมาณ 5 นาทีเท่านั้น เพียงคุณไปซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาเตรียมไว้ก่อน และเมื่อถึงวันที่ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันแล้ว หลังตื่นนอนก็สามารถนำชุดตรวจที่ซื้อเตรียมไว้มาตรวจได้ทันทีครับ

การตรวจการตั้งครรภ์ที่ช่วงเวลานี้จะมีความแม่นยำสูงถึง 97-99% ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจซ้ำใหม่ไม่ว่าผลตรวจจะออกมาเป็นอย่างไร

แต่ถ้าหากไม่มั่นใจผลตรวจจริงๆ ก็สามารถตรวจยืนยันอีกครั้งได้โดยให้ตรวจห่างจากการตรวจครั้งแรกอย่าวงน้อย 1 สัปดาห์ ถ้าหากผลตรวจ 2 ครั้งออกมาตรงกัน ผลตรวจก็มัดจะไม่ผิดพลาดแล้วครับ