January 31, 2019 20:15
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก เพียงแค่ 2% ค่ะ
และในกรณีที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็เป็นไปได้ว่าประจำเดือนจะคลาดเคลื่อนจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัย
หากรับประทานยาสตรีแล้วมีเลือดออกมา อาจจะบอกได้ยากว่าเป็นประจำเดือน หรือเป็นเพียงเลือดที่ออกผิดปกติจากความแปรปรวนของฮอร์โมนนะคะ และไม่อาจจะมั่นใจได้ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดหรือเปล่า ซึ่งอาจส่งผลให้ยังคงมีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติเช่นเดิมในรอบต่อ ๆ ไป
ดังนั้น แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์และรอดูไปก่อนค่ะว่าหลังจากนี้จะมีประจำเดือนมาหรือไม่ หากรอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ถ้าใช้ชุดทดสอบถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในเวลาที่เหมาะสมตามที่ได้กล่าวไปแล้ว เมื่อผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ
แต่เมื่อผู้ถามมีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงนะคะ และหากผู้ถามต้องการคุมกำเนิดไปด้วย ก็ให้แจ้งความต้องการนี้ให้คุณหมอทราบ เพื่อที่คุณหมอจะพิจารณาการรักษาและการคุมกำเนิดที่เหมาะสมให้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยนนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องและไม่มีการแตกรั่วของถุงยางอนามัย โอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ก็มีเพียง 2% เท่านั้นครับ ในกรณีที่ประจำเดือนเพิ่งมาช้าไปเพียงเล็กน้อยจึงอาจจะยังไม่ต้องกังวลมากนัก
แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานจริงๆ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูเพื่อความแน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ส่วนในกรณีที่ต้องการเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิด หมอแนะนำให้รอให้ประจำเดือนมาก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ โดยเมื่อประจำเดือนมาแล้วก็สามารถเริ่มรับประทานยาคุมได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะทำให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกครับ ส่วนในระหว่างที่ประจำเดือนยังไม่มานี้ ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีก ก็ให้ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาค่ะ พอดีมีsexวันที่20 มกราคม โดยล่าสุดมีประจำเดือนมาวันที่27-31 ธันวาคม ปกติแล้วเมนส์หนูมาไม่ปกติ จะเลื่อนประมาณ+/-หนึ่งอาทิตค่ะ แต่ตอนนี้เมนส์ยังไม่มา แล้วนี่ก็มีอะไรกันครั้งแรกด้วยแต่ใส่ถุง ถุงไม่รั่ว หลั่งนอก แล้วก็นับวันแล้วโดยปกติเมนจะมาช่วงสิ้นเดือนสงสัยว่าทำไมเมนส์ยังไม่มา หากนานไป หนูควรจะกินยาคุม(แบบ 28เม็ด) เลยมั๊ยคะ แล้วถ้าหนูกินยาสตรีฯแล้วเมนส์มาควรกินยาคุมทันทีเลยมั้ยคะหรือควรรอต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเมนส์จะมา หนูควรเลือกวิธีไหนดีคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)