August 23, 2018 03:01
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เมื่อไม่ได้ฉีดยาคุมต่อทันทีหลังจากถอดยาฝังคุมกำเนิดออก ก็ถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ จึงต้องพิจารณาตามหลักการของ "การฉีดยาคุมเข็มแรก" ค่ะ นั่นคือ...
การฉีดยาคุมเข็มแรก ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO 2016) และศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา (US CDC 2016) แนะนำให้ฉีดภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ค่ะ ซึ่งการฉีดในช่วงเวลานี้จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังฉีดยา มีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย
หากประจำเดือนมาในวันที่ 17 สิงหาคม ก็สามารถไปฉีดยาคุมในวันที่ 17 - 23 สิงหาคมค่ะ
แต่ถ้าเริ่มฉีดไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว ก็สามารถฉีดได้หากไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น นับจากวันที่ประจำเดือนมา มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย แต่ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางร่วมด้วยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ไปอีก 7 วันหลังฉีดยานะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
จากเมนมาเมื่อวันที่17สิงหา61 มา4วันแบบเกลี้ยงก็17-18-19-20 พรุ่งนี้23สิงหา61 สามารถไปฉีดได้เลยใช่มั้ยค่ะแบบรายเดือน รึเพื่อความมั่นใจตรวจฉี่สามารถรู้มั้ยค่ะว่าท้องรึไม่ท้อง แต่หลั่งนอกตลอดค่ะตั้งแต่ถอดเข็ม ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การหลั่งนอกไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงเลยนะคะ การใช้วิธีนี้โดยทั่วไปจะมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22% ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของการใช้ถุงยางที่ถูกต้องและไม่เกิดปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ซึ่งมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีประจำเดือนมาแล้วก็ถือว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วค่ะ ซึ่งพิจารณาเวลาที่มีประจำเดือนหลังถอดยาฝังคุมกำเนิดออกก็สอดคล้องกันว่าน่าจะเป็นประจำเดือนจริง ๆ ดังนั้น ไม่จำเป็นจะต้องตรวจการตั้งครรภ์ก็ได้นะคะ
แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นประจำเดือน เช่น มีเลือดออกมาน้อยมาก เป็นแค่หยดเลือดซึมกะปริบกะปรอยเท่านั้น ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ค่ะ โดยถ้าใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
ส่วนการฉีดยาคุมเข็มแรกนั้น ไม่ว่าจะเป็นยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน หรือจะเป็นยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ก็สามารถฉีดภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนได้นะคะ ดังนั้น เมื่อประจำเดือนมาในวันที่ 17 สิงหาคม ก็ยังสามารถฉีดได้ในวันที่ 23 สิงหาคม โดยถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังฉีดยาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับคำตอบที่ชัดเจนและเข้าใจค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ
แนวทางในการคุมกำเนิดมีหลายแนวทาง ไม่ได้มีเฉพาะ 2 แนวทางที่กล่าวมาข้างต้นค่ะ ซึ่งแต่ละแนวทางอาจมีรายละเอียดแตกต่างกันได้ ดังนั้น การพิจารณาว่าควรฉีดยาให้เลยหรือไม่ คงต้องขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์/สูตินรีแพทย์อีกทีนะคะ (อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ หน่วยงาน/องค์กร/สถาบันก็มักจะยึดตามแนวทางขององค์การอนามัยโลกค่ะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ
พึ่งถอดเข็มคุมกำเนิดไปเมื่อวันที่25ก.ค.61ค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มคุมแบบวิธีอื่น มีอะรัยกะแฟนค่ะแต่หลั่งนอกแต่ก็กลัวค่ะ ล่าสุดเมนมาเมื่อวันที่17สิงหา61ค่ะ มาประมาน4วันค่ะ กะว่าจะไปฉีดยาคุมแบบรายเดือนแต่ก็ลืมทุกทีบวกกะไม่ค่อยว่างด้วยค่ะ เลยอยากถามว่าถ้าจะไปฉีด1-2วันนี้จะได้ป่าวค่ะ เมนหยุดเกลี้ยงค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)