August 18, 2019 10:41
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากได้เริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนหรือรับประทานยาคุมติดต่อกันมามากกว่า 7 วันแล้วก็จะสามารถมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งในได้ครับ โดยจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยาคุมกำเนิดถ้ากินสม่ำเสมอสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ใกล้เคียงร้อยเปอร์เซนต์ครับ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ ดังนั้นหากกินยาตลอด แม้เป็นช่วงหยุดยา โอกาสตั้งครรภ์ก็แทบไม่มีครับ ส่วนถ้าอยากป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดส่วนใหญ่ได้ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยด้วยครับ
ผลของการทานยาคุมกำเนิด จะขึ้นกับ เวลาที่เริ่มใช้ และชนิดของยาคุมกำเนิดครับ ถ้าแผงแรกที่เริ่มทาน
-ทานในช่วง5วันแรกของการมีประจำเดือน และยาที่ทานเป็นเม็ดยาฮอร์โมน(ส่วนใหญ่จะมีสี ที่ไม่ใช่สีขาว) จะคุมกำเนิดได้เลยครับ
-ทานในช่วงหลังจาก5วันแรกของการมีประจำเดือน มีผลคุมกำเนิดเมื่อทานเม็ดยาฮอร์โมน ติดต่อกันครบ 7 วันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมรายเดือนเกือบทุกยี่ห้อจะมีกลไกหลักในการป้องกันการตั้งครรภ์โดยยับยั้งการตกของไข่ค่ะ ถ้าใช้ถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดจากยาแล้ว ผู้ใช้ก็มักจะไม่มีไข่ตกนะคะ
และเมื่อไม่มีไข่ตก ก็ผสมกับอสุจิไม่ได้ จึงไม่ทำให้ตั้งครรภ์นั่นเองค่ะ
ดังนั้น จะมีเพศสัมพันธ์หลั่งในซึ่งมีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้มาก หรือจะหลั่งนอกซึ่งมีอสุจิเข้าไปได้น้อยกว่า หรือจะใช้ถุงยางป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าไป ก็ไม่แตกต่างกันนะคะ
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% และความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอค่ะ
ดังนั้น ควรเริ่มใช้ให้ถูกต้อง และรับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แล้วถ้าเรากินบ่อยไป ต่อไปเราอยากจะมีลูก เราจะมียากมั้ยค่ะ จะมีปัญหานี้ตามมามั้ย
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมกำเนิดจะไม่มีผลให้เกิดภาวะมีบุตรบากตามมาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมกำเนิดทุก ๆ ชนิด ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้มีบุตรยากเมื่อหยุดใช้ค่ะ (เพียงแต่ถ้าใช้ยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน อาจใช้เวลานานหลังหยุดใช้จึงจะมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ได้ แต่โอกาสตั้งครรภ์สำเร็จภายใน 1 ปีหลังหยุดใช้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากยาคุมชนิดอื่น ๆ มากนัก)
ส่วนยาคุมชนิดเม็ดรับประทานรายเดือนที่ผู้ถามใช้ เมื่อพร้อมจะมีบุตรและหยุดรับประทานไปแล้ว ก็จะมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ได้เร็วมากค่ะ จึงไม่ต้องกังวลนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อยากทราบว่าถ้ากินยาคุมประจำแล้ว สามารถมีอะไรกับแฟนแล้วปล่อยในได้มั้ยค่ะ จะเสี่ยงหรือเปล่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)