June 11, 2019 01:47
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ จากประวัติมีเลือดออกทางช่องคลอดและได้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน เลือดที่ออกวันที่ 9 มิถุนายนนั้นหมอคิดว่าอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ โดยปกติแล้วหลังทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมักมีเลือดออกกะปริบกะปรอยหลังทานประมาณ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงอื่นๆจากยาคุมฉุกเฉินได้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดเต้านม ปวดท้อง ประจำเดือนเลื่อนหรือผิดปกติได้ และไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินเกิน2กล่องต่อเดือน ยาคุมฉุกเฉินมีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยแตก หรือทานยาคุมแบบรายเดือน สำหรับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการตั้งครรภ์ได้ 75-85%ค่ะ ถือว่าประสิทธิภาพไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการคุมด้วยวิธีอื่นๆ ดังนั้นถ้าประจำเดือนขาดแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ โดยแนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด สามารถตรวจได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน และถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไปแนะนำคุมด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน แบบฉีด แบบฝัง เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีอยากสอบถาม เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มิถุนา ได้มีเลือดออกมาทางช่องหลอดคล้ายประจำเดือนมากค่ะ ทั้งปริมาณและสี จน ณ วันนี้ก็ยังมีอยู่ แต่ยังไม่ถึงกำหนดที่จะต้องมีประจำเดือนค่ะ(ตามตาราง App ที่ได้ลงบันทึกการมีประจำเดือนไว้ ประจำเดือนจะต้องมาวันที่ 24 มิถุนา) ซึ่งตาม ตาราง App ที่ลงบันทึกไว้ วันที่ 9 มิถุนา เป็นวันที่ไข่ตกวันแรกพอดีค่ะ ค่อนข้างกังวลมาก เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แบบนี้ผิดปกติอะไรไหมคะ? ข้อมูลเพิ่มเติม - ได้มีการกินยาคุมฉุกเฉินไปเมื่อเช้าวันที่ 3 มิถุนา - มีเพศสัมพันธ์คืนวันที่ 1 มิถุนา - ประจำเดือนมาวันแรกรอบล่าสุดคือ 22 พฤษภา ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)