October 26, 2018 09:08
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ กรณีพบว่า เลือด ออกมาเล็กน้อย และ ไม่ได้มีเลือดออกมาอีก หรือ ไม่ได้มีเลือดออกมาบ่อยๆ กรณีของคนไข้ อาจเกิดจากบาดแผลหรือรอยถลอกที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาจจะท่าทาง ความรุนแรง หรือช่วงที่ทำช่องคลอดแห้ง ก็อาจจะรอบถลอก ทำให้มีอาการแสบ เจ็บ หรือ มีเลือดออกได้ เลือดที่ออกได้บ้าง เล็กน้อย ค่ะ
แผลที่ฉีกขาดบริเวณช่องคลอด ถ้าเป็นไม่มาก สามารถหายได้เองค่ะ ไม่ต้องใช้ยา เนื่องจากบริเวณช่องคลอดเป็นบริเวณที่มีเลือดมาเลี้ยงมาก แผลจึงหายเร็วค่ะ
วิธีปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อมีช่องคลอดเป็นแผลหรือฉีกขาดเล็กน้อย
1.รักษาความสะอาด การล้างทำความสะอากช่องคลอด ไม่ควรสวนล้างบ่อยๆ
2. ซักทำความสะอาดเสื้อชั้นในและกางเกงในทุกครั้งหลังใช้ ตากให้แห้งไม่อับชื้น
3. ไม่สวมใส่กางเกงที่คับแน่นมากเกินไป
4.ช่วงนี้ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างนึ่มนวลมากขึ้น
5.ไม่ไปล้วงแคะแกะเกาบ่อยๆ
6.หากมีอาการ เช่น เจ็บมาก ช่องคลอดบวมแดง มีเลือดออกมาก มีตกขาวผิดปกติ มีไข้ ควรไปรพ เพื่อตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติม เนื่องจาก อาจมีแผลใหญ่ข้างในที่เรามองไม่เห็น ที่ต้องเย็บซ่อมโดยแพทย์ หรือมีการ ติดเชื้อ ซ้ำซ้อนค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากเลือดออกมาบ่อยๆ อาจต้องหาสาเหตุอย่างอื่น เช่น
-การ ติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้มีเลือดออก และตกขาวที่ผิดปกติได้ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เป็นต้น คนไข้อาจจะมีเลือดออก ร่วมกับมีตกขาวสีผิดปกติ เช่นทสีเขียว สีเหลือง หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจมีอาการแสบ คันช่องคลอด บางคน อาจมีปวดท้องน้อยหรือมีไข้ร่วมด้วย
- ติ่งเนื้อในช่องคลอด / ปากมดลูก ( polyp) เมื่อโดนกระทบกระแทก อาจมีเลือดออกได้ง่าย
-เนื้องอก ทั้งเนื้องอกที่เป็นมะเร็วและไม่เป็นมะเร็งในช่องคลอด หรือ ปากมดลูก
-เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้มีเลือกออกขณะ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ บางคนอาจมีอาการปวดประจำเดือนมากกว่าปกติด้วยค่ะ
ยังมีอีกหลายสาเหตุ ที่อาจพบได้ค่ะ ซึ่งต้องใช้การตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจจะต้องมีการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมค่ะ จึงแนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ รพ นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
สำหรับอาการของเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
ยกตัวอย่างเช่น
- เป็นช่วงรอบเดือนปกติของผู้หญิงซึ่งอาจจะมาเร็วกว่าปกติหรือมาช้ากว่าปกติได้ครับ
- จากการเสียดสีจากการมีเพศสัมพันธ์ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวมีการฉีกขาด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในครั้งแรกของการมีเพศสัมพันธ์หรือว่าเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- ติ่งเนื้อบริเวณปากมดลูก
- มะเร็งปากมดลูก
- มีการอักเสบติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรืออวัยวะสืบพันธุ์
- ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด
- มีความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศ เป็นต้นครับ
ในกรณีที่มีเลือดออกแบบกระปิดกระปอย และเป็นประมาณ 1-2 วันแล้วหายไปเอง อาจเกิดจากการเสียดสีหรือมีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ หากมีอาการผิดปกติเช่น มีไข้ ปวดท้อน้อย ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด ปริมาณเลือดออกเยอะ หรือเป็นหลายวัน แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วกลับมามีเพศสัมพันธ์แล้วพบว่าเลือดออก(ไม่เยอะนะคะ มีติดมานิดหน่อย) แบบนี้จะเป็นอะไรมั้ยคะ อายุประมาน 19-20 ปีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)