มีอะไรกับแฟนวันที่ 20 ธันวาแล้วถุงยางมันแตกอะค่ะ กินยาคุมฉักเฉินไปแล้ว ประจำเดือนยังไม่มา แล้ววันที่30ก็มีอะไรกันถุงดันแตกอีก กินยาไปแล้วรู้สึกปวดท้อง อยากอาเจียน คัดบริเวณเต้านม แต่ตรวจครรภ์ยังไม่เจอค่ะ พอจะมีเปอร์เซ็นท้องไหมคะ

อาการผิดปกติที่เกิดขึ้น อาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ เนื่องจากเกิดขึ้นหลังรับประทานยา แต่ไม่ใช่อาการจำเพาะที่บ่งชี้ว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือเปล่านะคะ

ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพไม่สูงมากค่ะ นั่นคือ ต่อให้รับประทานเร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% แต่การใช้เป็นวิธีป้องกันสำรองในกรณีที่ถุงยางฉีกขาด ก็เป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมแล้วนะคะ

ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ

ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา ซึ่งอาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานนั้น ไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ อาจพบ หรือไม่พบเลยก็ได้ จึงให้รอดูประจำเดือนก็พอนะคะ

ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อความชัดเจนได้ค่ะ

หากต้องการคุมกำเนิดไปข้างหน้าด้วยยาคุมรายเดือน แนะนำให้รอประจำเดือนมาก่อนนะคะ

เพราะการใช้ยาคุมรายเดือนในตอนนี้ นอกจากจะไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว ยังจะทำให้ประจำเดือนยิ่งเลื่อนช้าออกไปมากขึ้น และไม่ได้มีผลคุมกำเนิดทันทีหลังรับประทานค่ะ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ในตอนนี้นะคะ

เมื่อประจำเดือนมาแล้ว (ต้องเป็นประจำเดือนจริง ๆ นะคะ ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา) ก็ให้เริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนแผงแรก ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ซึ่งจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังรับประทานค่ะ

หมายถึงยาสตรีหรือเปล่าคะ?

ถ้าหมายถึงยาสตรีก็ไม่แนะนำให้ใช้ค่ะ เนื่องจากไม่มีผลคุมกำเนิด จึงไม่ได้ช่วยป้องกันฉุกเฉินสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และอาจส่งผลให้เกิดปัญหาเลือดออกผิดปกติได้ ซึ่งจะยิ่งสับสนในช่วงที่รอให้ประจำเดือนมา แต่ยาสตรีไม่มีผลให้แท้งบุตรค่ะ