January 24, 2017 11:17
ตอบโดย
Witchuda Onmee (พญ.)
อาการของไวรัสตับอักเสบบีมีได้หลายแบบค่ะบางครั้งก็ไม่มีอาการขึ้นอยู่กับว่าติดเชื้ออยู่ระยะไหนค่ะ ถ้าผู้ป่วยติดเชื้อในระยะเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการภายใน 1-4 เดือนหลังติดเชื้อ ดังนี้
o อาการไข้ ตัวเหลืองตาเหลือง ปวดท้องใต้ชายโครงขวา
o อาการอื่นๆ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ผื่น ปวดข้อ เป็นต้น อาการตับอักเสบระยะเฉียบพลันจะดีขึ้นใน 1-4 สัปดาห์ และจะหายเป็นปกติเมื่อร่างกายสามารถกำจัดและควบคุมเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ ซึ่งมักใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน แต่ผู้ป่วยส่วนน้อย (5-10%) ไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้หมด ทำให้ผู้ป่วยมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง
หากติดเชื้อในระยะ การติดเชื้อเรื้อรัง จะแบ่งอาการได้เป็น 2 รูปแบบค่ะ คือ
o พาหะ คือ ผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแต่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ผลการตรวจเลือดการทำงานของตับอยู่ในเกณฑ์ปกติ
o ตับอักเสบเรื้อรัง คือ ผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย และตรวจเลือดพบการทำงานของตับผิดปกติ
ซึ่งหากติดเชื้อเป็นระยะเรื้องรังปัจจุบันมียาที่สามารถรักษาให้หายได้ค่ะทั้งยาฉีดและยารับประทาน แต่ส่วนมากหลังจากการรักษาครบแล้วยังต้องติดตามอาการต่อค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
หากป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบีจะมีอาการอย่างไรบ้าง แล้วสามารถหายขาดได้หรือไม่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)