คือหนูมีอาการ ตอนกลางวัน อารมณ์ดีอยู่ดีๆตกดึกมาอยากร้องไห้สะงั้น บางวันหนูหงุดหงิดและโมโหโดยไม่ทราบสาเหตุค่ะ พอหงุดหงิดก็ร้องไห้ค่ะ โมโหก็ร้องไห้อีก หนูไม่เข้าใจตัวเองน่ะค่ะ บางวันหนูก็คิดนู้นคิดนี่เหม่อลอย ล่าสุดค่ะ หนูมีอาการอยากตายบ่อยๆ หนูคิดว่าตัวเองผิดตลอดเวลา แย่ตลอดเวลา ไม่เคยทำอะไรดีเลยสักอย่างไม่เคยทำอะไรให้ครอบครัวสบายใจเลยสักครั้ง หนูชอบโทษที่ตัวเองเกิดมาแล้วไม่มีปนะโยชน์ไม่รู้ว่าจะเกิดมาทำไม บางคืนหนูร้องไห้แล้วคิดจะหยิบมีดมาแทงตัวเองให้ตายด้วยซ้ำ แต่ทุกครั้งที่คิด เหมือนสมองมันตีกัน ซีกนึงบอกให้ตายซะ อีกซีกบอกให้นึกถึงคนข้างหลัง หนูเลยได้แต่ร้องไห้ออกมาแทน หนูเหนื่อยค่ะคุณหมอ หนูท้อกับตัวเอง หนูไม่รู้ว่าหนูเป็นอะไรกันแน่ หนู รบกวนคุณหมอช่วยตอบคำถามหนูหน่อยนะค่ะ ว่าหนูเป็นอะไรกันแน่ ควรไปพบแพทย์โดยตรงหรือเปล่า

สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เศร้าติดต่อกันเป็นเวลานาน มีความรู้สึกแย่กับตัวเอง มีความรู้สึกอยากตายบ่อยๆอาจเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็จะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตัวเองโดยการทำแบบทดสอบตามลิ้งค์นี้ก่อน

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

เนื่องจากคุณมีอาการดังกล่าวติดต่อกันมานานแล้วและดูเหมือนอาการจะส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมานกับคุณพอสมควร หมอแนะนำว่าควรลองไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

สวัสดีครับ

จากเรื่องที่เล่ามาตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับความรู้สึกว่าตนเองไม่มีค่า และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร มีความคิดฆ่าตัวตาย และรู้สึกว่าอารมณ์จะค่อนข้างดิ่งลง และร้องไก้บ่อยครั้งนะครับ

อาการเหล่านี้เหมือนดังที่คุณหมอได้คอนเม้นท์ไว้ด้านบนคือฟังแล้วมีความเสี่ยงในเรื่องของการเป็นโรคซีมเศร้านะครับ ดังนั้นสิ่งหนึ่งเลยที่อยากจะแนะนำก่อนก็คือการไปเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยานะครับเพื่อที่จะได้รับการประเมินและวินิจฉัย เพื่อที่จะได้รับการักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ เพราะเรื่องของโรคซึมเศร้านี้ เป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะต้องหาตัวช่วยเพื่อที่จะต่อสู้กับตัวโรคครับ

ดังนั้นแล้วอยากให้ลองติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีแผนกจิตเวชอยู่นะครับเพื่อที่จะได้เจอกับจิตแพทย์ นอกจากนั้นแล้วในช่วงนี้อาจจะต้องลองหันกลับมาดูแลตนเองซักนิดนะครับ หากมีความคิดฆ่าตัวตายเข้ามาเยอะๆ อยากให้ลองพูดคุยเรื่องนี้กับคนที่คุณไว้ใจ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท การได้มีคนอยู่ด้วยและรับฟังเราจะเป็นตัวที่ช่วยเยียวยาให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ครับ หากรุ้สึกว่าไม่มีใครที่สามารถพูดคุยด้วยได้ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณสามารถลองโทรไปได้ครับ

นอกจากนั้นแล้วการลองปรับพฤติกรรม หากิจกรรมที่คุณทำแล้วรู้สึกผ่อนคลายทำ การลองหันมาออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆ ดูหนัง ฟังเพลงก็อาจจะช่วยในเรื่องการปรับอารมณ์ของคุณได้บ้างครับ

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปนะครับ และหากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ

อาการดังกล่าวเข้าข่ายโรคทางด้านอารมณ์ โดยเฉพาะโรคซึมเศร้าค่ะ

เบื้องต้นลองสำรวจอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
5. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
6. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
7. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
8. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
9. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
10. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ซึ่งจำเป็นต้องรักษาด้วยยา เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ความคิด อารมณ์ การแสดงออกทางพฤติกรรมกลับมาเป็นปกติ ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขอีกครั้งนะคะ