สวัสดีค่ะคือหนูคลอดลูกได้10เดือนกว่าๆแล้วค่ะแต่ประจำเดือนไม่มาเพราะไดเไปฉีดยาคุมแบบ3เดือนฉีดไป2เข็มทำให้อ้วนขึ้นเป็นสิวแล้วก็ไม่มีประจำเดือนค่ะหลังจากนั้นก็หยุดฉีดยาคุมค่ะแล้วเปลี่ยนมาทานแทนกินยาแบบ21เม็ดค่ะแล้วพอกินหมดแผงแต่ประจำเดือนยังไม่มาค่ะแล้วไปปรึกษาคุณหมอค่ะแล้วหมอก็ให้ยาปรับฮอร์โมนมาทานค่ะทานไป5เม้ดแล้วประจำเดือนก็มาวันที่25ม.คค่ะมาประมาน3-4วันแล้วก็อหยุดแต่หมอบอกว่าถ้าประจำเดือนให้เริ่มกินยาคุมแผงใหม่ทันทีกินทุกวันน่ะคะจนเม็ดสุดท้ายลืมกินค่ะ(ช่วงแรกกินยาประมาณ18.20ค่ะแต่พอหลังๆลืมค่ะแต่ก็กินทุกวันน่ะคะแต่กินประมาณ19.00ค่ะไม่เกิน20.00ค่ะ)ตอนนี้หยุดกินยามา3วันแล้วค่ะแต่ประจำเดือนยังไม่มามันเกี่ยวการที่เรากินยาคุมไม่ตรงเวลาใชไมค่ะแล้วถ้าประจำเดือนภายใน7วันนี้ไม่มาแล้วจะเริ่มกินยาแผงใหม่เมื่อไรค่ะคุณหมอแล้วมีสิทธิ์ตั้ครรภ์100%มั้ยคะ

หากผู้ถามเริ่มใช้ยาคุมแผงนี้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ และเมื่อรับประทานยาคุมทุกวัน แม้บางวันจะรับประทานช้ากว่าเวลาปกติไปบ้างเล็กน้อย ก็ยังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องและมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกตินะคะ

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% ค่ะ

ผู้ที่ใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด ประจำเดือนมักจะมาหลังใช้ยาหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรืออาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย ดังนั้น การที่ยังไม่มีประจำเดือนมาในตอนนี้ ไม่ได้เกิดจากการรับประทานยาคุมไม่ตรงเวลา และยังไม่ถือว่าผิดปกตินะคะ แนะนำให้รอดูต่อไปค่ะ

การใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อแผงใหม่ ซึ่งประจำเดือนควรจะมาในช่วงที่เว้นว่างดังกล่าว หากผู้ถามไม่ได้รับประทานเม็ดที่ 21 ของแผงนี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้นับการเว้นว่างตั้งแต่วันที่ไม่ได้รับประทานยาเลยนะคะ

หากมีประจำเดือนมา เมื่อเว้นว่างครบ 7 วันแล้วก็ต่อยาคุมแผงใหม่ได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อน

แต่ถ้าเว้นว่างจนครบ 7 วันแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ของวันที่จะต้องต่อยาคุมแผงใหม่นะคะ

โดยปกติ ถ้าผลตรวจออกมาว่าไม่ตั้งครรภ์ จะแนะนำให้ต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่อง แต่ในกรณีนี้ เนื่องจากผู้ถามเคยมีปัญหาเช่นนี้มาก่อน เมื่อรักษาแล้วแต่ยังเป็นซ้ำ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์อีกเพื่อตรวจเพิ่มเติมและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

ประจำเดือนปกติ ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ ดังนั้น หากผู้ถามมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย เลือดนั้นก็น่าจะเป็นประจำเดือนจริง ๆ ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยจากสาเหตุอื่น

สำหรับการใช้ยาคุมแผงแรก เมื่อประจำเดือนมาแล้วก็สามารถเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนได้เลย ซึ่งจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ

"พ้นเวลากินยาแล้ว" หมายความว่าอย่างไรคะ

สามารถรับประทานได้ค่ะ โดยจะเปลี่ยนเป็นเวลานี้ในทุก ๆ วัน หรือพรุ่งนี้จะกลับไปรับประทานในเวลา 18.20 น. ตามที่เคยรับประทานมาก่อนก็ได้นะคะ เพราะการรับประทานยาคุมเร็วหรือช้ากว่าเวลาปกติไม่เกิน 1 - 2 ชั่วโมง ไม่น่าจะกระทบกับประสิทธิภาพของยามาก โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เปลี่ยนเวลารับประทานหรือรับประทานคลาดเคลื่อนไปจากเวลาปกติบ่อย ๆ ค่ะ

เดี๋ยวนะคะ ผู้ถามกำลังอยู่ในช่วงเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่หรือเปล่าคะ?

ถ้าใช่ แนะนำให้เว้นว่างไปจนครบ 7 วันก่อนจึงค่อยต่อแผงใหม่ตามที่เคยตอบไปในความเห็นแรกนะคะ ไม่จำเป็นต้องเริ่มใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเหมือนกับยาคุมแผงแรกแล้วค่ะ เพราะไม่ว่าจะเริ่มรับประทานเลย หรือเว้นว่างให้ครบ 7 วันก่อน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ไม่แตกต่างกัน (แต่ถ้ารับประทานไปแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องกังวล)

ส่วนในกรณีที่เลิกรับประทานยาคุมไปนานแล้ว และจะกลับมารับประทานใหม่ ให้เริ่มใช้เช่นเดียวกับการใช้ยาคุมแผงแรก นั่นก็คือ ให้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนนะคะ ซึ่งหากใช้ทันช่วงเวลานี้จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ

เมื่อเริ่มแผงใหม่แล้วก็ให้รับประทานต่อไปตามลำดับเลยนะคะ ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องตามปกติค่ะ

1. ในเมื่อรับประทานแผงใหม่ไปแล้วในวันศุกร์ เหตุใดจึงต้องการหยุดใช้วันเสาร์แล้วไปใช้ต่อในวันอาทิตย์คะ
2. สรุปแล้วผู้ถามได้รับประทานยาคุมในวันเสาร์หรือไม่คะ

ต้องการทราบเหตุผลตามที่ถามไปในข้อ 1 ด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

การต่อยาคุมแผงใหม่เร็วกว่ากำหนดไม่ได้ลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดค่ะ และไม่ได้ทำให้ผลข้างเคียงจากยามีมากขึ้น แต่อาจทำให้รอบประจำเดือนสั้นกว่าที่ควรจะเป็นหากทำเช่นนี้ไปตลอด

โดยปกติจะมีการใช้ยาคุม 1 แผง/28 วันนะคะ แต่การต่อยาคุมเร็วกว่ากำหนดไป 2 วัน ก็เท่ากับว่าผู้ถามใช้ยาคุม 1 แผง/26 วันนั่นเอง ซึ่งหากทำเช่นนี้เป็นประจำ ใน 1 ปีที่ควรจะมีประจำเดือน 365/28 = 13 รอบ ก็จะกลายเป็นมีประจำเดือน 365/26 = 14 รอบ ซึ่งทำให้เสียเลือดมากครั้งกว่าปกติโดยไม่จำเป็น (เพราะประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่แตกต่างกัน) และยังทำให้สิ้นเปลืองค่ายาคุมมากขึ้นด้วยค่ะ (เพราะต้องซื้อมาใช้ปีละ 14 แผง แทนที่จะใช้แค่ 13 แผง)

แต่หากผู้ถามไม่ได้ทำเป็นประจำ โดยต่อยาคุมแผงใหม่เร็วกว่ากำหนดไปแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรอบประจำเดือนตามที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ จึงไม่น่าจะกังวลอะไรนะคะ
..
..
..
เมื่อผู้ถามไม่ได้รับประทานเม็ดยาวันเสาร์ เฉพาะในกรณีนี้สามารถข้ามไปได้เลยค่ะ นั่นคือ คืนนี้ให้รับประทานเฉพาะเม็ดยาวันอาทิตย์เม็ดเดียว และรับประทานต่อตามลำดับวันละ 1 เม็ดไปเรื่อย ๆ

ถ้าผู้ถามรับประทานถูกต้องต่อเนื่องทุกวันไปตลอด จะได้รับประทานเม็ดสุดท้ายตามลำดับลูกศรในวันพฤหัสที่ 14 มีนาคม แต่จะยังมีเม็ดยาวันเสาร์ที่ผู้ถามข้ามไปเหลืออยู่ 1 เม็ดในแผง ก็ให้รับประทานเม็ดนั้นในวันศุกร์ที่ 15 มีนาคมได้เลยนะคะ

จากนั้นก็ให้เว้นว่าง 7 วัน ในวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 22 มีนาคมค่ะ ซึ่งประจำเดือนควรจะมาในช่วงที่เว้นว่างนี้ และเมื่อประจำเดือนมาแล้ว ก็ต่อยาคุมแผงถัดไปตามกำหนดในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคมได้เลยค่ะ

หากรับประทานยาคุมต่อเนื่องก็จะมีผลยับยั้งไข่ตกไปตลอด เมื่อไม่มีไข่ตก อสุจิก็ผสมกับไข่ไม่ได้ จึงไม่เกิดการตั้งครรภ์ค่ะ

ซึ่งต่างจากผู้ที่ไม่ได้คุมกำเนิดที่จะมีความเสี่ยงตั้งครรภ์สูงหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงที่ไข่ตก และเสี่ยงน้อยกว่าในช่วงที่คาดว่าไข่ไม่น่าจะตก เช่นช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" (แม้จะเสี่ยงน้อยกว่า แต่ก็ถือว่าความเสี่ยงสูงกว่าการใช้ยาคุมรายเดือนมากนะคะ เพราะมีโอกาสที่ไข่จะตกไม่ตรงกับที่คาดการณ์ไว้ได้)

ดังนั้น ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ก็มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะตั้งครรภ์ในทุก ๆ วันค่ะ

และตามที่ได้แนะนำไปแล้วว่าการต่อยาคุมแผงใหม่เร็วก่อนกำหนดไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยานะคะ จึงไม่ได้ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น ตราบใดที่ผู้ถามรับประทานยาคุมตรงเวลาสม่ำเสมอและไม่ลืมรับประทานยาค่ะ