ตอนนี้ผมเป็นอีสุกอีใส ตุ่มขึ้นที่แรกคือแถวๆคอ ผมก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร จนลวงมาเกือบจะ2อาทิตย์ก็มีตุ่มขึ้นตามแขนตามคอมากยิ่งขึ้น อ่อนเพลียทำอะไรไม่ค่อยได้ น้ากับยายก็แนะนำว่า ให้กินยาเขียว เพื่อที่จะขับมันออกมาให้เยอะๆ จะได้ไม่เป็นอีก แต่ผมสงสัยครับว่า ทำไมแหล่งข้อมูลบางแหล่งถึงบอก ห้ามกินเพราะมีสเตียรอยด์กินแล้วทำให้ลามไปถึงตับ ถึงปอดได้ แต่ผมกินไปแล้วได้ 3วันแล้วครับ กินแทนน้ำเปล่าเลย ตอนนี้ขึ้นที่หน้าเยอะมาก ก็เริ่มขึ้นที่หลัง ที่แขนมากขึ้นด้วย ผมอยากจะสอบถามว่า กินต่อไปจะมีปัญหาอะไรตามมามั้ยครับ

อีสุอีใส เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่ง ไม่มีการรักษาอะไรเฉพาะ แนะนำให้พักผ่อนเยอะๆ กินน้ำเยอะๆ และปัสสาวะเยอะๆ เพื่อลดไข้ การรักษาส่วนใหญ่จะรักษาตามอาการเช่นมีไข้ หรือ ปวดตัวมาก ก็ให้กินพาราเซ็ตตามอล เป็นต้น
คำถามของคนไข้คือ
1.การรับประทานยาเขียวได้หรือไม่
ยาเขียวเป็นชื่อเรียกกว้างๆของยาสมุนไพรไทย ที่นำสมุนไพรในส่วนของใบที่มีมีเขียวมาปรุงเป็นยา ซึ่งมีหลากหลายสูตรมากๆ ขึ้นอยู่กับสูตรนั้นจะเอาสมุนไพรชนิดอะไรมาผสมบ้าง โดยสรรพคุณหลักๆจะช่วยลดไข้ แต่ฤทธิ์ที่ช่วยขับเชื้อไวรัส ขับพิษ หรือ ต้านเชื้อไวรัส ยังไม่มีการศึกษาที่น่าเชื่อถือพอครับ
2.ยาเขียวจะมีส่วนประสมของสเตรียรอยหรือไม่
ขึ้ออยู่กับยี่ห้อที่คนไข้เลือกซื้อเลยครับ ในบางยี่ห้ออาจจะผสมสเตียรอยก็ได้ครับ การที่กินยาเขียวที่มีส่วนประสมของสเตียรอย อาจจะทำให้เชื้อโรคเจริญเพิ่มมากขึ้น ทำให้อาการเเย่ลงตามที่คนไข้หาข้อมูลมาได้ครับ เพราะสเตียรอย อาจจะไปกดการทำงานของภูมิคุ้มกันของเรา ผมแนะนำว่าให้เลือกซื้อยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ เลือกร้านยาที่น่าเชื่อถือ และ เลือกร้านยาที่มีเภสัชกร

สรุปการกินยาเขียวเพื่อลดไข้ แก้ปวดเมื่อย ในคนไข้อีสุอีใส สามารถทานได้ครับ และแนะนำให้เลือกซื้อยาเขียวที่น่าเชื่อถือเพื่อหลีกเลี่ยงการผสมสเตียรอยครับ
ทีสำคัญหากอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้ละเอียดครับ