June 01, 2019 00:56
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
หากมีเพศสัมพันธ์อีกหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ครบสองเม็ดซึ่งเป็นช่วงที่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินลดลง มีโอกาสตั้งครรภ์ครับ
..............
ดังนั้นก็อาจเริ่มยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่ได้ครับแต่อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม เลือดประจำเดือนแปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ ดังนั้นหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ต่อไปแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย หรือรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติทั่วไปครับ
...............
เเละเดือนนึงไม่ควรใช่ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเกินสองเเผงครับ
...............
(ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลรบกวนกระบวนการตกไข่ รบกวนการที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่ รวมทั้งส่งผลเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อทำให้ยากแก่การฝังตัวของไข่ที่ผสมกับอสุจิแล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% แต่เป็นการไปลดโอกาสตั้งครรภ์ลงจากเดิม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหากรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุดครับ )
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์นะครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ
ปรึกษาอีก1เรื่องคะ อนาคตถ้าไม่มีตัวน้อยว่าจะลองทานยาคุมกำเนิด(ซึ่งไม่เคยทานเลย)
หนูลังเล3แบรนด์ ยาส ยาสมิน ซินโฟเนีย
รบกวนคุณหมอแนะนำให้ทีคะ
ส่วนตัว ไม่มีโรคประจำตัว น้ำตาลในเลือด82 คลอเลสเตอรอล202 ไขมันดี51
สส.156 นน.91 อายุ24
เพิ่งไปตรวจสุขภาพมาคะ
(คืออ้วนมากคะ จะกินยาอะไรเลยระแวงไปหมดคะ)
ขอบคุณคะ
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ ค่าโคเรสเตอรอล (cholesterol) ในผู้ใหญ่ปกติควรน้อยกว่า 200 mg/dl ค่ะ กรณีนี้เกิน ไม่แนะนำทานยาคุมกำเนิดค่ะ เนื่องจากไขมันในเลือดสูงและยังควบคุมให้อยู่ในระดับปกติไม่ได้เป็นข้อห้ามหนึ่งในการทานยาคุมกำเนิดค่ะ ถ้าลดลงได้มาแล้วอาจแนะนำเริ่มต้นทานยาคุมที่มีฮอร์โมนต่ำๆดูก่อน ผลข้างเคียงจะไม่เยอะ เช่น Yaz (EE 0.02 mg.), Yasmin(EE 0.03 mg.), Diane-35(EE 0.035 mg.), Minidoz (EE 0.03 mg.), Anna(EE 0.03 mg.), Oilezz (EE 0.04 mg.) เป็นต้น โดยที่ปริมาณ Ethinyl estradiol (EE) มากจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ และถ้าหากมีปริมาณน้อยอาการข้างเคียงเหล่านี้ก็จะลดลงตามไปด้วย แต่อาจทำให้มีเลือดออกมากะปริดกะปรอยได้ในช่วงแรกๆค่ะ ระหว่างนี้ก็อาจแนะนำให้คุมด้วยถุงยางอนามัยไปก่อน รอลดน้ำหนัก คุมไขมันในเลือดให้ปกติแล้วถึงแนะนำทานยาคุมกำเนิดได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีคะคุณหมอ หนูขอปรึกษาดังนี้คะ...... เมื่อคืนวันที่ 25/5/62 หนูทำการบ้านกับสามีโดยหลั่งข้างใน 2ครั้ง ตอนประมานตี1-3 และวันรุ่งขึ้น 26/5/62 หนูทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกไปตอนเที่ยง(12:17) ทานเม็ด2ตอนเที่ยงคืน(00.17) พอเข้านอนปุ๊บไม่วายสามีก็หลั่งข้างในอีกแล้วคะ 2ครั้ง และเช้า 27/5/62 ก็หลั่งข้างนอก 1 ครั้ง หนูอยากทราบว่า การหลั่งรอบ2 ของคืนวันที่26 ยาคุมตัวนั้นไม่สามารถช่วยยับยั้งได้แล้วใช่ไหมคะ? แล้วถ้าไม่ได้ตั้งครรภ์ประจำเดือนหนูคาดว่าจะมาอีกช่วงไหนคะ? ( หนูเป็นประจำเดือนล่าสุด 19-24/5/62 คะ )
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)