หยุดกินยาคุมแล้วปจดยังไม่มา..เวลามีเพสสัมพันธ์ก็ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง..จะท้องมั้ยคะ

ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ ในกรณีที่ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแล้ว หากใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อย ก็คือ เพียง 2% ค่ะ

แต่ถ้ายังมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมอยู่ (เช่น ถ้าใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด แล้วยังอยู่ในช่วงเว้นว่าง 7 วันหลังรับประทานหมดแผง) ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.3% ถ้าที่ผ่านมามีการใช้ยาคุมอย่างถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอนะคะ

ถ้ากินยาคุมเเบบเเผงมานานเช่นเป็นปีๆ เเล้วหยุด ประจำเดือนจะมาช้าได้ครับ เนื่องจาก ต่อมใต้สมองที่ทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมนให้ตกไข่โดนฤทธิ์ยากดมานาน ต้องรอให้กลับมาทำงาน เข้าสู่สมดุลย์รอบเดือนเดิมอีกครั้ง โดยทั่วไปไม่เกิน6เดือน ระหว่างนี้ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนถูกต้องครับ

ในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว แนะนำให้รอให้ประจำเดือนมาก่อนนะคะ หรืองดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 14 วันแล้วตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเริ่มใช้

ถ้าใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะมีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังรับประทานค่ะ

แต่ถ้าใช้นอกเหนือจากช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางร่วมด้วยใน 7 วันแรกของการรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมนะคะ
..
..
แต่ถ้ามีผลคุมกำเนิดจากยาอยู่ เช่น อยู่ในช่วงเว้นว่าง 7 วันหลังใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ดหมดไป ในกรณีที่ไม่มีประจำเดือนมาในช่วงที่เว้นว่าง ก็ให้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ของวันที่ครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ ถ้าผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็ต่อยาคุมตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ค่ะ

ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อจะแนะนำให้ละเอียดและชัดเจนยิ่งขึ้นนะคะ
1. ยาคุมที่เคยใช้คือยาคุมยี่ห้ออะไร ใช้ติดต่อกันนานกี่แผงก่อนจะหยุดใช้
2. วันที่รับประทานยาคุมเม็ดสุดท้ายคือวันที่เท่าไหร่คะ
3. ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดในวันที่เท่าไหร่
4. การมีเพศสัมพันธ์ที่ใช้ถุงยาง ได้ตรวจสอบการรั่วซึมหรือไม่

ใช้ยาคุมติดต่อกันนานกี่แผงก่อนจะหยุดใช้คะ?

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

ที่สอบถามว่ามีการใช้ยาคุมกี่แผงติดต่อกัน ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นยี่ห้อบีลาร่าเท่านั้นนะคะ แต่หมายถึงทุกยี่ห้อที่ "มีการใช้ต่อเนื่องกัน" ก็คือ มีการต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนด ไม่ใช่หยุดใช้ไประยะหนึ่งแล้ว ค่อยกลับมาเริ่มใช้ใหม่

เพื่อดูแนวโน้มว่ามีโอกาสที่จะยังมีความแปรปรวนของฮอร์โมนที่ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนหรือไม่ เช่น ถ้าผู้ถามเคยมีปัญหาประจำเดือนไม่ปกติหรือไม่ตรงเวลามาก่อน การใช้ยาคุมติดต่อกันแค่ระยะสั้น ๆ แล้วหยุดใช้ ก็อาจทำให้กลับไปมีปัญหาประจำเดือนไม่ปกติตามเดิมได้ค่ะ แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องกันมามากกว่า 3 - 6 แผง ประจำเดือนก็ควรจะมาสม่ำเสมอตรงเวลาแล้ว

เมื่อหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด จะมีไข่ตกได้เร็วค่ะ และถ้าไข่ไม่ได้ผสมกับอสุจิ หรือผสมแล้วแต่ฝังตัวที่เยื่อบุมดลูกไม่สำเร็จ ก็จะทำให้มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ และน่าจะห่างจากวันที่มีประจำเดือนมาครั้งล่าสุดประมาณ 28 วันค่ะ
..
..
ในกรณีของผู้ถาม ประจำเดือนมาช้ากว่าวันที่คาดไว้เกือบ 1 สัปดาห์แล้วนะคะ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ว่าเป็นเพราะมีการตั้งครรภ์ หรือเป็นเพราะความแปรปรวนของฮอร์โมนจากสาเหตุอื่น ๆ

การป้องกันด้วยถุงยางอนามัย หากใช้ถูกวิธี และไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยค่ะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น ในกรณีที่ยังไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ แต่ต้องการจะใช้ยาคุมกำเนิดรายเดือนอีก จะต้องมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่อย่างแน่นอน ซึ่งมีทางเลือก ดังนี้ค่ะ

1. ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเริ่มใช้ยาคุม โดยไม่รอให้ประจำเดือนมาก่อน

ซึ่งการตรวจตั้งครรภ์โดยใช้ชุดสอบทางปัสสาวะ แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ ถ้าตรวจถูกวิธีและตรวจในเวลาที่เหมาะสมแล้วได้ผลตรวจเป็น 1 ขีด ก็จะเชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ และสามารถเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนได้เลยค่ะ

แต่ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางร่วมด้วยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ใน 7 วันแรกของการรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแผงแรกด้วยนะคะ

2. รอให้ประจำเดือนมาก่อน จึงค่อยเริ่มใช้ยาคุม

หากเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ซึ่งจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังรับประทานยาค่ะ
..
..
..
นั่นคือ หากผู้ถามไม่ต้องการรอให้ประจำเดือนมาก่อน ถ้าตรวจตั้งครรภ์ถูกต้องและเหมาะสมแล้วได้ผลเป็น 1 ขีด ก็เริ่มใช้ยาคุมได้เลยค่ะ แต่ให้ใช้ถุงยางร่วมด้วยใน 7 วันแรกของการรับประทานยาคุมแผงนี้ด้วยนะคะ

และระหว่างที่รับประทานเม็ดยาฮอร์โมน จะไม่มีประจำเดือนมา ดังนั้น การเริ่มใช้ยาคุมตามทางเลือกนี้ อาจทำให้ประจำเดือนที่กำลังจะมาถูกเลื่อนให้ช้าออกไปค่ะ (แต่ก็สามารถทำได้หากต้องการ)