การตรวจ Alanine Aminotransferase (ALT) โดยเก็บตัวอย่างจากเลือด ทำเพื่อวินิจฉัยความเสียหายของตับ เมื่อพบอาการบางอย่างของผู้ป่วยที่อาจเป็นสัญญาณของโรคตับชนิดต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
ชื่ออื่น: ALT, Serum Glutamic-Pyruvic Transaminase, SGPT, GPT, Alanine Transaminase
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ชื่อทางการ: Alanine Aminotransferase
จุดประสงค์ของการตรวจ Alanine Aminotransferase (ALT)
การตรวจเอนไซม์ Alanine Aminotransferase (ALT) ทำเพื่อตรวจหาการบาดเจ็บที่ตับ มักทำร่วมกับการตรวจ Aspartate transaminase (AST) ซึ่งทั้งสองการตรวจนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Liver Panel
ALT เป็นเอนไซม์ที่พบได้มากในเซลล์ของตับ เมื่อตับเสียหาย ALT จะถูกปล่อยเข้ามาในเลือด จึงทำให้สามารถตรวจพบ ALT ได้ตั้งแต่ตับผิดปกติระยะเริ่มต้น แม้ผู้เข้ารับการตรวจยังไม่มีอาการผิดปกติใดใด
การตรวจเอนไซม์ AST และ ALT เป็นการตรวจอาการบาดเจ็บของตับที่สำคัญ โดย ALT จะมีความเฉพาะเจาะจงต่อตับมากกว่า ในขณะที่ AST สามารถบ่งบอกความเสียหายของอวัยวะได้หลายประเภท ไม่ใช่แค่ตับเพียงอย่างเดียว แต่ในบางครั้ง AST จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับ ALT และมีการคำนวณอัตราส่วน AST/ALT ซึ่งอัตราส่วนนี้ จะถูกนำมาใช้แยกว่าเป็นสาเหตุของความเสียหายของตับหรือเป็นการบาดเจ็บของหัวใจหรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้ออื่นๆ
นอกจากนี้ แพทย์อาจนำค่า ALT มาใช้ติดตามการรักษาผู้ที่เป็นโรคตับ เพื่อดูว่าการรักษาได้ผลหรือไม่
เมื่อไรที่ต้องตรวจ Alanine Aminotransferase (ALT)?
แพทย์อาจให้การตรวจ ALT เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสารเคมีในเลือด เพื่อประเมินคนที่มีสัญญาณและอาการของโรคตับ เช่น
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องบวมโต หรือปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา
- โรคดีซ่าน มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
- ปัสสาวะมีสีเข้มผิดปกติ
- อุจจาระมีสีซีด
แพทย์อาจตรวจ ALT เพียงอย่างเดียว หรือทำควบคู่กับการตรวจอื่นๆ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคตับ เช่น
- ผู้ที่มีประวัติว่าได้รับเชื้อ หรือมีความเสี่ยงที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบ
- ผู้ที่เป็นนักดื่ม
- ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคตับ
- ผู้ที่ทานยาที่อาจทำให้ตับเสียหาย
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือเป็นโรคเบาหวานหรือเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง
วิธีเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจ Alanine Aminotransferase (ALT)
แพทย์จะตรวจ Alanine Aminotransferase (ALT) จากเลือด โดยการเจาะเลือดในเส้นเลือดดำที่แขน ซึ่งผู้เข้ารับการตรวจไม่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหาร
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
รายละเอียดการตรวจ Alanine Aminotransferase (ALT)
Alanine aminotransferase (ALT) เป็นเอนไซม์ที่พบได้ในเซลล์ตับและไตเป็นส่วนใหญ่ พบได้บ้างในหัวใจและกล้ามเนื้อ การตรวจนี้ช่วยวัดระดับของ ALT ในเลือด คนที่มีสุขภาพดีจะมีระดับของ ALT ในเลือดต่ำ
ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่อยู่ด้านบนของช่องท้องด้านขวาและอยู่ใต้กระดูกชายโครง ซึ่งตับเกี่ยวข้องกับการทำงานที่สำคัญในร่างกายมากมาย เช่น ช่วยจัดการกับสารอาหาร ผลิตน้ำดีเพื่อช่วยย่อยไขมัน ผลิตโปรตีนที่สำคัญมากมาย นอกจากนี้ตับยังช่วยสลายสารพิษที่อาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายอีกด้วย
เมื่อตับเสียหาย ALT จะถูกหลั่งเข้ามาในเลือด ซึ่งมักเกิดขึ้น ก่อนที่สัญญาณความเสียหายของตับจะชัดเจน การตรวจ ALT จึงช่วยหาความเสียหายของตับได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ความหมายของผลตรวจ
การมีระดับของ ALT สูงมากๆ มักเกิดจากการเป็นโรคไวรัสตับอักเสบเฉียบพลัน หรือเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ มักจะมีระดับของ ALT สูงประมาณ 1-2 เดือน ในบางกรณีอาจมีระดับ ALT สูงประมาณ 3-6 เดือน จึงจะกลับมาเป็นปกติ
แต่ในผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง จะมีระดับของ ALT ไม่สูงมากนัก ดังนั้นแพทย์จึงอาจตรวจ ALT บ่อยครั้ง เพื่อดูรูปแบบของการเปลี่ยนแปลง โดยส่วนมากแล้วสาเหตุที่ทำให้ ALT เพิ่มขึ้นปานกลาง ประกอบไปด้วย
- การอุดตันของท่อน้ำดี
- ตับแข็ง
- ดื่มสุรามาก
- การมีเนื้องอกในตับ
ผู้ที่เป็นโรคตับส่วนใหญ่จะมีระดับของ ALT มีค่ามากกว่า AST และอัตราส่วนของ AST/ALT จะมีค่าต่ำ (น้อยกว่า 1) แต่อาจพบอัตราส่วนดังกล่าวมีค่ามากกว่า 1 ในผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ ตับแข็ง และหัวใจหรือกล้ามเนื้อบาดเจ็บ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการตรวจ Alanine Aminotransferase (ALT)
- การฉีดยาเข้าไปในกล้ามเนื้อ หรือการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก อาจทำให้ระดับของ ALT เพิ่มขึ้น
- การรับประทานยาหลายชนิดอาจทำให้ระดับของ ALTเพราะมีผลกระทบต่อตับ