แนวคิดเดิมในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม จะให้ผู้ใช้ยาได้รับฮอร์โมนต่อเนื่องกันนาน 21 วัน จากนั้นก็ปล่อยให้ไม่ได้รับฮอร์โมนอีก 7 วัน เพื่อให้เกิดการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูก และมีเลือดออกมาเลียนแบบการมีประจำเดือนตามธรรมชาติ จึงนิยมเรียกยาคุมดังกล่าวว่าเป็นยาคุมสูตร 21/7 (21/7 regimen) ตามลักษณะของการได้รับและไม่ได้รับฮอร์โมนในแต่ละรอบของการใช้ยาคุม 1 แผง
ซึ่งยาคุมสูตร 21/7 จะหมายรวมทั้งยาคุมที่มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด + เม็ดแป้ง 7 เม็ด รวมเป็น 28 เม็ดใน 1 แผง และยาคุมที่มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ดใน 1 แผง โดยที่ไม่มีเม็ดแป้งรวมอยู่ในแผงยาเลย ซึ่งผู้ใช้ยาจะต้องเว้นว่าง 7 วันในช่วงปลอดฮอร์โมนแทนการรับประทานเม็ดแป้งนั่นเอง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อย่างไรก็ตาม การที่มีช่วงปลอดฮอร์โมนนาน 7 วันอาจมีผลต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด เพราะบางการศึกษาชี้ว่าในช่วงที่ไม่ได้รับฮอร์โมน แม้จะไม่พบว่ามีไข่ตก แต่ก็อาจมีการเจริญเติบโตของฟองไข่ในรังไข่ได้
อีกทั้งการขาดยาไป 7 วัน ทำให้ระดับฮอร์โมนลดลงจนแตกต่างจากช่วงที่ได้รับฮอร์โมนมาก ความแปรปรวนของฮอร์โมนดังกล่าวอาจทำให้เกิดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual syndrome หรือ PMS) ได้แก่ ปวดศีรษะ, เจ็บคัดตึงเต้านม, บวมน้ำ, ซึมเศร้า หรือหงุดหงิดโมโหง่าย ซึ่งรบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ยาเป็นอย่างมาก (รวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้คนรอบข้างของผู้ที่ใช้ยาด้วย ฮ่า...)
จึงมีการพัฒนายาคุมกำเนิดสูตร 24/4 (24/4 regimen) ขึ้นมา เพื่อลดระยะเวลาปลอดฮอร์โมนให้เหลือเพียง 4 วัน และยังลดปริมาณฮอร์โมนในยาแต่ละเม็ดลงด้วย (โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน)
ดังนั้น จุดเด่นของยาคุมสูตร 24/4 นอกจากจะลดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนได้ดี (หลังจากใช้ยาคุมครบ 3 เดือน) และสามารถยับยั้งไข่ตกได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ก็ยังมีผลข้างเคียงจากยาน้อยกว่ายาคุมสูตร 21/7 อีกด้วยค่ะ จึงไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม บวมน้ำ ฝ้า สิว และหน้ามัน ในระหว่างที่ใช้ยาคุม
อีกทั้งยังพบว่า ผู้ใช้ยาคุมสูตร 24/4 มักจะมีเลือดประจำเดือนออกมาน้อยกว่า และมีระยะเวลาที่เป็นประจำเดือนสั้นกว่าผู้ที่ใช้ยาคุมสูตร 21/7 จึงอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในผู้ที่มีปัญหาสืบเนื่องจากการมีประจำเดือน เช่น เลือดออกมากจนเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซีด หรือมีอาการปวดประจำเดือนรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยาคุมสูตร 24/4 มีปริมาณฮอร์โมนน้อยกว่ายาคุมแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ จึงอาจทำให้เกิดเลือดกะปริบกะปรอยได้ง่ายในช่วงที่ใช้ยาคุม 1 – 3 แผงแรก โดยเฉพาะถ้ารับประทานไม่ตรงเวลา
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาลืมรับประทานยาบ่อย ๆ, น้ำหนักตัวมาก (ตั้งแต่ 70 กิโลกรัมขึ้นไป) หรือต้องรับประทานยาหรือสมุนไพรบางชนิดอยู่เป็นประจำ (ได้แก่ ยาบางตัวในกลุ่มยากันชัก / ยารักษาวัณโรค / ยาต้านไวรัสเอดส์ และสมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต) อาจไม่เหมาะกับการใช้ยาคุมสูตร 24/4 เพราะประสิทธิภาพของยาอาจลดลง เสี่ยงต่อการคุมกำเนิดล้มเหลวและตั้งครรภ์ตามมาได้
การเปรียบเทียบยาคุมสูตร 24/4 ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน (สิงหาคม 2561)
ยี่ห้อ | มินิดอซ | ไมนอซ | ยาส | ซินโฟเนีย |
ภาพตัวอย่าง | ||||
ฮอร์โมนเอสโตรเจน ต่อเม็ด | Ethinylestradiol 0.015 มิลลิกรัม | Ethinylestradiol 0.015 มิลลิกรัม | Ethinylestradiol 0.020 มิลลิกรัม | Ethinylestradiol 0.020 มิลลิกรัม |
ฮอร์โมนโปรเจสติน ต่อเม็ด | Gestodene 0.060 มิลลิกรัม | Gestodene 0.060 มิลลิกรัม | Drospirenone 3 มิลลิกรัม | Drospirenone 3 มิลลิกรัม |
จุดเด่น |
|
| ||
จุดด้อย | ||||
ราคา | 170 – 230 บาท | 110 – 150 บาท | 400 – 450 บาท | 320 – 360 บาท |
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท